หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ปลายทางรัก..ของเรา


๐ ปลายทางรัก..ของเรา ๐



รักของเราเริ่มต้นบนฟากฝั่ง
ข้างหน้ายังเหมือนห่างอย่างเกินฝืน
รักหนึ่งเดียวเกี่ยวใจ..ไยกล้ำกลืน
ต่างจุดยืนแนวคิดจิตบอบบาง

เหมือนลงเรือเดินทางกว้างไกลนัก
เราสองจักหวังพายให้สะสาง
ผลเช่นไร?..เมื่อรักชักเลือนราง
ดูจืดจางทางรักแทบหักงอ

หัวเรือเขวเป๋ทางอย่างประหวั่น
เพราะต่างฝันทางรักชักเริ่มฝ่อ
มองหาทิศเส้นชัยไกลเกินรอ
หมดแรงถ่อเรือพายเหมือนสายไป

ในลำเรือเราสองประครองรัก
ไม่ประจักษ์บางสิ่งจริงแค่ไหน
สิ่งที่สร้างร่วมกันมันอะไร
เป็นหน้าที่ หรือหัวใจ ? ในลำเรือ

ร่วมทางเดิน..หรือทางรัก..ชักไม่แน่
ต่างมีแง่แนวทางต่างความเชื่อ
เส้นทางรักอันเดิมเริ่มคลุมเครือ
แทบไม่เหลือเงาใจในสองคน

กลางลำเรือต้นรักชักไหวหวั่น
แรงหนึ่งดัน..แรงหนึ่งยั้ง..อย่างสับสน
น้ำเชี่ยวกรากลากเราเข้าวังวน
เกรงอับจนหนทางดูลางเลือน

กี่วันพายปัดเป๋เซเข้าฝั่ง
อาจถึงยังเป้าหมายท้ายสุดเหมือน
แต่ขณะ..เดินทางใจ..ใคร่บิดเบือน
ดั่งสัญญาณสั่นเตือนเลือนรักลา

01/12/2010

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ดาวอับแสง





~ดาวอับแสง~

 สาวน้อยค่อยๆอาย

แสงสวรรค์สรรค์สร้างสว่างหรือ
แสงไฟสื่อสีสันร้อยพันสาย
ดอกนีออนซ้อนเหลื่อมกระเพื่อมพราย
กลบดาวรายเกลื่อนฟ้าแสงลาจาง


หลากสีสันแต่งแต้มแซมเมืองใหญ่
ตระการใจใครคนยลเมืองกว้าง
แสงดาราหม่นหลัวมัวเลือนราง
แนบซอกใจมีบ้างหรืออย่างไร

แสงสีนวลชวนมองไยหมองหม่น
เช่นบางคนหม่นมานนั้นไฉน
กี่เพลาดาวเมืองเรืองแสงไกล
จะดับไฟมืดลงตรงราตรี

ให้แสงนวลน้อยหนึ่งพึงกะพริบ
หวังกระซิบแสงแลแม้ริบหรี่
เพียงโอกาสวาดฝันอันน้อยมี
สู่ใจเธอคนดีนี้เพียงคราว

ณ  เบื้องบนดาดฟ้าราตรีล่อง
เธอจะมองท้องถนนหรือบนหาว
มองที่ใดไฟส่องหรือมองดาว
ที่แสงจางรอคราวดาวอับแรง

คงจะมีเพียงฝันอันน้อยหนึ่ง
ไฟเมืองถึงซึ่งคราวดับเงาแสง
หวังเพียงเธอมองดาวคราวฟ้าแปลง
รอแสดงแสงนวลยวนใจเธอ..

...แค่นาที..


"มะสะแป..ค่ะ"
8/12/2010



วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทาสหัวใจ


* ทาสหัวใจ *

ต้องจำยอมทั้งทั้งเธอรังเกียจ
ซ้ำประณามหยามเหยียดเกลียดก็เพ้อ
ยอมทุกอย่างสร้างรักถักปรนเปรอ
น้ำตาเอ่อเกร่อล้นทนรับเอา




เธอชี้นิ้วกริ้วสั่งไปข้างหน้า
ฉันก้าวขาว่าตามย้ำคำเขา
เธอบอกล้ม...ลุก..คลาน,ฉันมัวเมา
เจ็บรุกเร้าประดังพังยับเยิน

ออกกฏห้ามเลิกถามความสงสัย
ก็ทำได้โอนอ่อนผ่อนนานเนิ่น
หวังเพียงใกล้ใจภักดิ์รักเหลือเกิน
แม้เผชิญสายตาพร้อมฆ่ากัน

นอนผวาคราตื่นฝืนใจข่ม
เก็บช้ำตรมจมดิ่งทิ้งในฝัน
กลับหลอนหลอกยอกย้อนค่อนคืนวัน
แทรกเข้าบั่นหั่นรัวตรงขั้วใจ

ทรมานพล่านสุมรุมคับอก
ไฟนรกหมกผลาญระรานไหม้
พิษรักซ่อนกร่อนกัดมัดเพียงไร
บาดลึกในตายลงยังคงรัก

แล้วเมื่อฉันคนนี้ที่ขี้ขลาด
ยอมเป็นทาสของเธอจึงเพ้อหนัก
แต่รากใจให้ฝังหยั่งลึกนัก
ไม่อาจหัก...ถอนไถ่..ให้คืนมา

22/04/2010


 ยิ้มให้จ้ะ

 

คาตา


" คาตา  "


ยืนกำมือตัวชาหน้าผ่าวร้อน
เห็นเธออ้อนฉอเลาะต่อใครอื่น
เสียจริตจิตคลั่งล้มทั้งยืน
อกสะอื้นกลืนสะอึกฝังลึกใน

 ยืนตัวทื่อเป็นหุ่นหมุนเคว้งคว้าง
ในรู้สึกอ้างว้างขว้างเข้าใส่
เมฆทะมึนเคลื่อนมิดปิดตาใจ
น้ำตาไหลใจเต้นถี่คล้ายหรี่ลง

แนบหลังพิงอิงเสารักเราจบ
เมื่อค้นพบสบรักฝากแค่หลง
ความมั่นใจให้ไว้..ไม่มั่นคง
ไม่ซื่อตรง..คงเป็นเช่นอย่างเธอ

 เจ็บใจข่มอารมณ์ผสมแค้น
กำมือแน่นแสนช้ำย้ำความเซ่อ
ไม่คาดคิด,ปิดใจในสิ่งเจอ
น้ำตาเอ่อเห่อล้นท้นอุรา

 ได้แต่ยืนตัวสั่นแม้ลั่นโกรธ
โทสะโทษโลดจัดดังกลัดบ้า
ทำได้แค่กำมือยื้อตัวชา
แม้เห็นเธอคาตาว่าควงใคร

หลับตาลบเลือนภาพที่ฉาบกั้น
ยิ่งเหมือนมันชัดเจนเป็นแบบไหน
ลบรอยเก่าคาตามาบาดใจ
ยิ่งกรีดลึกรอยใจให้ค้างคา
2/03/2010

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


 สาวน้อยหัวเราะ

ลมหายใจในซากศพ

"ลมหายใจในซากศพ "

มองเธอเดินลากลับลับหายจาก
พร้อมกระชากลากใจให้เคว้งคว้าง
ประหนึ่งเหมือนเฉือนใจให้หลุดราง
หล่นจากร่างลับหายสลายใจ

จับเนื้อตัวยังอุ่นด้วยขุ่นเลือด
บัดคอเหือดแห้งฝืนกลืนไม่ไหว
จับหน้าอกใจเต้นอย่างเป็นไป
มองร่างกายเคลื่อนได้แต่ใจตรม

ยังหายใจได้ดีมีชีวิต
ในจริตจิตเสียเพลียความขม
คำเสียดแทงแหยงด่าว่าโง่งม
ใจนอนซมล้มป่วยด้วยรักลา

นึกภาพเธอยิ่งเพ้อเซ่อถลำ
เธอสาดพร่ำคำเล่ห์เซถลา
แต่มืดมิดจิตบอดตลอดมา
ทำหูชาพร่าเลือนเหมือนไม่ยิน

เธอทำเบือนเลือนหายคล้ายประหาร
ขยี้ใจไฟผลาญระรานสิ้น
จำฝืนทนปนสู้อยู่อย่างชิน
รู้ไหมเหมือนชีวินสิ้นไปนาน

เพียงหายใจเข้าออกหลอกเรือนร่าง
แต่กายร้างว่างจิตชิดสถาน
ลมหายใจในซากกากวิญญาณ
ร้อนรุกรานผลาญใจใครลืมลง

ภาพเธอเดินลาเย้ยเผยอีกครั้ง
 ขยี้พังพลีใจให้เป็นผง
เหมือนตายแล้วทั้งเป็นเว้นรอปลง
สิ่งเหลือคงคือซาก,หากหายใจ
8/06/2010

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อสรพิษ..รัก?


อสรพิษ..รัก?

เมื่อแรกพบคบเธอละเมอหนัก
ด้วยศรรักปักใจให้ลุ่มหลง
โดยมิอาจคาดคิดถูกพิษลง
ทิ่มแทงตรงสู่ใจให้เย็นชา

เธอส่งยิ้มพิมพ์ใจไว้เพื่อเชือด
ให้คนเหือดแห้งรักจักเพ้อหา
พร้อมคำหวานกับดักรักวางยา
ให้คนบ้าไม่เคยเลยหลงทาง

ต้องหัวปักหัวปำถลำลึก
ให้รู้สึกหวามไหวไม่อ้างว้าง
โดยมิทราบอาบยาทาหลุมพราง
ให้หัวใจบางบางพังปางตาย

เมื่อลองลิ้มอิ่มใจเธอได้หมด
ความหวานสดรสจางพลางเร้นหาย
ทิ้งพิษรักฟักตัวกลั้วทำลาย
ซึมเข้าสู่ร่างกายไร้วิญญาณ

เธอต้องการรักแท้แค่เพียงหลอก
มาปอกลอกหัวใจไม่สงสาร
รักของเล่นเห็นแก่แค่ต้องการ
ทรมานไม่เว้นเซ่นใจเธอ

พิษร้ายแล่นเสียวแปลบแสบทั่วร่าง
เชื่องช้าอย่างเลือดเย็นเล่นที่เผลอ
รักพิษกร่อนกัดเซาะเพราะปนเปรอ
ยอมบำเรอพิษรักเข้าหักใจ

เมื่อแรกพบสบตาเก็บมาฝัน
ไม่นึกหวั่นฝันกลายทำร้ายได้
ด้วยเพราะหลงดงพิษฤทธิ์ดั่งไฟ
เธอพ่นใส่ให้แสบแบบถึงทรวง

27/06/2010

๕. ที่หมาย


"ที่หมาย"


เดินทางไกลในธรรมยามอ่อนล้า
มืดมัวตาคราเศร้าเข้าห่มเหง
อุปสรรคผลักกันปั่นให้เกรง
อุปาทานขันเบ่งเร่งวุ่นวาย


ด้วยมุ่งมั่นศรัทธาขาก้าวต่อ
ไม่หยุดท้อก่อกล้าหาความหมาย
ความเพียรตั้งวางไว้ไม่เสื่อมคลาย
มีเพียงตายให้หยุดรุดแห่งธรรม

 ฝึกกำหนดกายใจไว้เสมอ
ไม่ละเมอเพ้อคลั่งพังกระหน่ำ
ให้สมค่าคราเจ้าเข้าฝึกจำ
ตั้งจิตนำทุกครั้งอย่างกลางนี้

จับสติใจเราเอาให้อยู่
ระลึกรู้เสมอเผลอเป็นผี
รู้อารมณ์ข่มไว้ให้พอดี
แม้โกรธมีรู้ตัวทั่วที่ใจ

ข่มอาลัยอาวรณ์ให้อ่อนเถิด
จินต์เตลิดเชิดหายให้ดึงใกล้
ผ่อนอารมณ์ข่มเกลียดเครียดจางไป
นิวรณ์ใหญ่ให้วางอย่างผ่อนลง

เส้นทางธรรมแม้ไกล,ใสกระจ่าง
ไม่มืดอย่างเช่นเก่า,เศร้า,เขลา,หลง
เดินทางสู่ที่หมายด้วยใจ "ปลง"
จิตสงบจบลงตรงที่เดิม

"คือ ธรรมดา "


3/06/2010

๔. อุปสรรคแห่งการเดินทาง


"อุปสรรคแห่งการเดินทาง"

 ยิ้มแก้มแดง

ระหว่างทางยาวไกลในเบื้องหน้า
ด้วยศรัทธานาบุญหนุนแน่วแน่
กลับเกิดคิดบางอย่างสร้างตัวแปร
เข้ายุแหย่แก่ใจให้หมองมัว


ความไหวหวั่นใดใดใคร่บังเกิด
ใจเตลิดเชิดหายใต้ฟ้าหลัว
ความมืดดำถลำพ่นดังฝนรัว
เริ่มหวาดกลัวกลั้วคลั่งช่างวังเวง

ใจติดบ่วงห่วงใยให้ว้าวุ่น
ชุลมุนรุมร้ายใคร่ข่มเหง
ระลึกถึงอดีตกรีดละเลง
ให้เครียดเคร่งอาวรณ์บั่นทอนใจ

กำหนดใจไฉนเล่าเจ้าไม่รับ
ดังดวงจิตติดกับปรับไม่ไหว
ยิ่งก้าวย่างทางกว้างอ้างว้างไกล
อุปาทานพล่านใส่ตามรายทาง

ความระบมซมกายก็ร้ายนัก
ความเจ็บปวดหาญหักมักกรีดขวาง
สังขารล้าภาระใจไม่ปล่อยวาง
อดีตต่างรั้งไว้...ในห้วงกาล

อุปสรรคใหญ่หรือคือความคิด
คอยสะกิดจิตคนรนเผาผลาญ
เฝ้ากร่อนกัดรัดรึงตรึงไปนาน
ข้ามให้ผ่านใจตนจะพ้นเอง
 


 สาวน้อยหัวเราะ
15/05/2010
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

๓. นรกในใจ





"นรกในใจ"
 ยิ้มแก้มแดง

ศรัทธาน้อมดวงรัตน์สะอาดอ้าง
เปรียบสว่างดั่งหล้ามาเกื้อหนุน
หวังปลดปล่อย,ร้อยดี,มีเป็นทุน
ออกเดินทางสายบุญด้วยอุ่นใจ


ณ  ถนนแห่งธรรมจะนำสุข
แต่เหตุทุกข์ไม่วางผ่านทางให้
ความหมองหม่นปล้นลวงขวางทางไกล
คอยก่อกวนป่วนไฟในวิญญา

เมื่อเงียบงัน,สงบพบอดีต
มักเขียนขีดเส้นไว้ให้กังขา
แม้เห็นแสงแห่งไฟกว้างไกลตา
แต่อุราสิ่งเศร้าเฝ้าหลอนลวง

ข่มดวงจิตหลับตาหน้าผ่าวร้อน
ระลึกตอนเวรเก่าเราเข้าถ่วง
บาปดีชั่วมั่วมากเขาอยากทวง
นิมิตเห็นเป็นดวงช่วงแห่งกรรม

ดั่งนรกหมกคิดสะกิดออก
ส่งมาหลอกตอกลงตรงกระหน่ำ
กลุ้ม,ว้าวุ่นขุ่นข้องต้องจองจำ
กับเงาดำของตนรนยิ่งนัก

เส้นทางธรรมไม่ไกลไยเหมือนสั้น
มารตามหั่นกั้นขวางล้วงบาปหนัก
เทเวศน์แก้วแพรวพรายให้ที่พัก
ไกลเกินจักคว้าถึงพึ่งเริ่มเดิน

หลับตาบ่มสติที่ดวงมาลย์
กรรมฐานสานไว้อย่าให้เขิน
ด้วยแรงกล้าศรัทธาไม่ช้าเกิน
บุญดำเนินเพลินพบสงบแท้


15/05/2010
 

 ยิ้มแก้มแดง

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

๒. ก้าวแรกสู่ประตูธรรม


"ก้าวแรกสู่ประตูธรรม"
 ยิ้มแก้มแดง

ห่มสไบฝ้ายขาวพราวพิสุทธิ์
กายผาดผุดดุจแก้วแพรวโฉมศรี
พร้อมชำระ,ชะคาวราวราคี
ปิดวจีสงบจิตใส่ทิศเดิน


ประพฤติพรหมจรรย์ให้ทัน,ครบ
หวังบรรจบพบธรรมนำสรรเสริญ
กำหนดกรอบครอบใจไม่หลงเพลิน
มุ่งดำเนินตามทางอย่างยินดี

กำหนดงดวาจาอย่าเบือนบิด
ควบคุมจิตให้ตรงลงลิ้นปี่
สำรวมคราปฏิบัติจัดท่าที
ให้รู้สึกลึกนี้จี้ให้ตรง

สมาธิให้มั่นพระท่านว่า
เมื่อก้าวขาอย่าผิดจริตหลง
ช้า..ช้า..ช้า..จับไว้ให้มั่นคง
ครั้นวางลงจงรู้ตัวทั่วสรรพางค์

รู้ที่กายใจแน่นไม่แล่นออก
หมั่นย้ำบอกกรอกหูรู้ทั้งร่าง
ขวาย่างหนอ..ชะลอไว้ให้ผ่อนบาง
ถึงซ้ายบ้างวางเท้าเจ้ามั่นใจ

ครบจงกรมพรหมล้ำนำสติ
สมาธิกรรมฐานอันผ่องใส
สลับเวียนเพียรเดินจำเริญไกล
ปัญญาไวได้เชิดเกิดแห่งบุญ



 ยิ้มแก้มแดง



ภาพจากสถานที่จริงค่ะ ยิ้มแก้มแดง
15/05/2010

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

๑. ถอดเปลือก



"  ถอดเปลือก "


ถอดตุ้มหูคู่หวงพวงสายสร้อย
กำไลร้อยหลากมีสีสัณฐาน
แหวนเคียงก้อยพลอยล้อมย้อมตระการ
เอาใส่พานอันน้อยค่อยเก็บลง


บรรจงเช็ดเครื่องสำอางที่พลางหน้า
เปลือกบังตาหุ้มห่อก่อให้หลง
เลือนลาหายกายหยาบทราบแล้วปลง
สิ่งเหลือคงคือเนื้อเจือมลทิน

ชำระล้างคราบไคลไล้เรือนร่าง
พรรณนวลนางผ่องแผ้วแล้วทั้งสิ้น
ยังภายในเปื้อนเปรอะเลอะชีวิน
หวังเอาศีลกรรมฐานมากลั่นเกลา

พิศตัวตนคนจุ้นวุ่นวายนัก
อยากขอพักเพียงครู่รู้ความเขลา
เอาธรรมกล่อมพร้อมขัดปัดมัวเมา
ชะหมองเศร้าเคล้ากิเลส,ด้วยเหตุนี้

มุ่งสู่ทางสายธรรมย้ำดวงจิต
ตั้งพินิจความจริง...ใช่วิ่งหนี
ความทุกข์โศกวิโยคใดในธานี
แต่เปี่ยมมี..เพื่อฝึกตรึกใจกาย

ถอดเปลือกนอกออกไว้ไปทางแจ้ง
เพื่อแสวงค้นหาค่าความหมาย
เท่าที่ลมหายใจ..ไม่คลาดคลาย
ก่อนวางวายได้ฝาก..สัก..หนึ่ง..ดี


5/05/2010

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ไม่มีชื่อ..ใช้สื่อเป็นแรงใจ

Comment - นางฟ้า: 8

(.................................)

 สาวน้อยหัวเราะ

หากประพจน์ประพันธ์อันด้อยค่า
จะตรึงตราเป่ามนตร์คนช่างฝัน
หรือผ่อนคลายความล้าแต่ละวัน
จึงอยากกลั่นจากใจไว้อย่างดี


สร้างด้วยรักถักรวงห่วงเสมอ
ส่งถึงเธอด้วยใจให้เต็มที่
มาลัยคำนำใส่ร้อยไมตรี
ความหมายนี้มีรักฉันถักทอ

ใส่ด้วยอิ่มรู้สึกระลึกถึง
เธอจะซึ้งแค่ไหนไม่เอ่ยขอ
หากคำน้อยด้อยค่าทว่ารอ
จะตั้งต่อด้วยใจให้ถึงเธอ

เธอได้ยินบ้างไหมใครถามถึง
เฝ้ารำพึงห่วงใยไปเสมอ
มิใช่เพราะหลงรูปจูบละเมอ
มิใช่เพ้อเพราะเหงาหรือร้าวราน

ด้วยรู้สึกเต็มตื่นที่ชื่นนัก
ด้วยรู้สึกเต็มรักจักไขขาน
มิใช่เพียงชั่วครู่แต่อยู่นาน
มิใช่เกิดเพียงวานแล้วผ่านไป

รับเอาไว้เถอะนะอย่าส่งกลับ
หากพอซับ ล้า,กร่อน,ความอ่อนไหว
อาจเพียงแค่เท่าที่มีแรงใจ
ส่งแทนความห่วงใยถึงใจกัน...

 สาวน้อยค่อยๆอาย

ด้วยใจจริงจากใจ..ให้เธอนะ

24/11/2010


วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ครั้งที่เท่าไหร่

Comment - นางฟ้า: 3

" ครั้งที่เท่าไหร่ "

 ยิ้มหน้าแมว

ต้องโดนหลอกครั้งนี้ที่เท่าไหร่
กับหัวใจถลำช้ำเห็นเห็น
แต่ไม่วายทำเบือนเลือนประเด็น
รักกระเซ็นไม่จำพร่ำจะเอา


จะวิ่งตามรักไปถึงไหนนะ
ไม่ลดละบ้าบิ่นถวิลเขา
โหยหารักจากเธอเพ้อมัวเมา
รู้ทั้งรู้แค่เงาอาจเฝ้าลวง

ไม่เคยนับหัวใจที่ใครหลอก
เฝ้าคอยบอกรู้สึกอย่านึกห่วง
ทนมาได้ตั้งนานรักผลาญทรวง
คงผ่านล่วงอีกครั้งช้ำช่างมัน

ต้องโดนหลอกครั้งนี้ที่เท่าไหร่
ถามหัวใจตัวเราที่เฝ้าฝัน
หวังจะรอต่อรักปักนิรันดร์
จะมีวันไหนเล่าใจเจ้ากรรม

ต้องโดนหลอกครั้งนี้ที่เท่าไหร่
ตอบตัวเราเหตุใดใยถลำ
รอรักจากผู้ใดใจไม่จำ
สร้างเงื่อนงำช้ำชอกหลอกตัวเอง


อย่างนี้ทุกที..จริง ๆ เลย  ยิ้มหน้าแมว

13/10/2010

นิยมสูง

อาคันตุกะ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ถูกอกถูกใจกดไลค์กดแชร์นะคะ