หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โอกาสของหัวใจในความรัก


"โอกาสของหัวใจในความรัก"



โอกาสของหัวใจในความรัก
มิบ่อยนักรักประชิดจิตหวามไหว
กับรู้สึกหวังดีที่ให้ไป
บริสุทธิ์แก้วใสจะให้กัน

คงน้อยนักรักเข้าเย้าหัวอก
จากใครยกหยิบยื่นระรื่นฝัน
บัดใจเราเฝ้าให้ได้ทุกวัน
มีโอกาสสำคัญนั้นมากพอ

กี่สิบคู่คล้องแขนสู่แดนรัก
กี่คู่ทักตรงใจเมื่อได้ขอ
กี่คู่คนหญิงชายได้ร่วมทอ
กี่คนรอสมหวังดังอ้อนวอน

มิได้ร่วมสร้างเวรประเคนเคาะ
มิจำเพาะร่วมบุญหนุนครั้งก่อน
มิร่วมสร้างทางรักแม้สักตอน
จึ่งแรมรอนลางเลือนเคลื่อนลับลา

ทุกอณูนาทีที่ได้รัก
ความสุขทักดวงมานเฝ้าฝันหา
หยุดคิดถึงบึ้งรักจากอุรา
คือสุขอยู่ไหมหนาหรือว่าตรม

ทุกฉากของหัวใจใต้รู้สึก
ยังผนึกความหวานอันสุขสม
หากจะเสียน้ำตาเพราะระทม
ยังได้ชมความหวานที่ผ่านมา

โอกาสมากมายที่จะเจอคนที่เรารัก...แต่คงไม่บ่อยนักที่จะเจอคนที่...รักเรา❤`••

 29 มกราคม 2011

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

" บัวกลางบึง "


" บัวกลางบึง "


ลงนทีผุดว่ายคลองท้ายบ้าน
บัวตระหง่านชูช่อกอสะพรั่ง
ค่อยว่ายแหวกแทรกกลางอย่างระวัง
ให้ถึงยังบัวเห็นเด่นตระการ

เอื้อมมือเก็บปทุมมาบูชาพระ
“เร็วสิวะ! พ่อร้องก้องลั่นบ้าน
มัวมุดองค์สรงน้ำทำเล่นนาน
แม่เอ็งด่าปากบานฉันระอา”

รีบแหวกช่อกอบัวเลี้ยวตัวหลบ
ก้านประกบทิ่มข่วนทั่วนวลหน้า
หนามเจ้าชู้รู้นะอย่าเข้ามา
จะแกล้งเกี่ยวภูษาให้ข้าอาย

ยิ่งลุกลนวนธารพานยิ่งช้า
บัวคงแอบเย้ยข้าว่าบัวสาย
มิได้เป็นบุษบาต้องตาชาย
ยอมเดียวดายขายยิ้มแถวริมบึง

กระโจมอกยกมือยื้อโกมุท
เกรงผ้าหลุดปลาตายให้คนอึ้ง
โน้มมาใกล้เพียงหน่อยจะค่อยดึง
เอื้อมไม่ถึงพึงช่วยด้วยเถิดบัว

ก้าวขยับขับใกล้ไปอีกหน่อย
ดอกก็คล้อยถอยห่างอย่างคล้ายยั่ว
กระโจนตาม..น้ำกระเซ็น..ใจเต้นรัว
เธอเผยตัว..” บัวนี้..พี่จองแล้ว”

นะจ๊ะ.... 
 14 เมษายน 2011

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

~* กลอนของเธอ* ~ (๒)


~* กลอนของเธอ* ~ 

 (๒)

กลอนของเธอเพราะไปใคร่ขอผ่าน
มิอาจหาญต่อได้คล้ายผวา
คนเก่งเก่งเร่งพจน์รจนา
ฉันอ่อนล้าขาอ่อนทอนกำลัง

กลอนของเธอยวนยั่วเราตัวสั่น
กลอนของฉันนั้นอ่อนแทบหลอนหลัง
อยากจะรอต่อกลอนอ่อนใจจัง
กลอนเธอขลังทุกบทพจน์น่าตาม

กลอนของเธอสดใสใครนะเขียน
กลอนของเธอคนเพียรอยากเรียนถาม
คนในกลอนของเธอละเมอความ
คือคนงามคนใดไยโชคดี

กลอนของฉันอ่อนแอแต่เด็ดเดี่ยว
คอยตามเกี้ยวด้วยใจไม่เคยหนี
คิดประพันธ์งานใจหลายนาที
แต่มิมีกลอนใดใคร่เสียดาย

เธอต่อกลอนกับใครเยี่ยมไปหมด
ฉันสลดกลอนเน่าเศร้าใจหาย
เห็นกลอนเธอรำพันฉันตาลาย        
อ่านความหมายใจปอดแทบจอดคลาน

กลอนเธอสื่อถึงใครไยหวานนัก
แสดงถึงความรักภักดิ์สถาน
กับใครกันบอกหน่อยอย่าปล่อยนาน
ให้บางคนลนลานเพราะกานท์เธอ  


วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เอ่ยฉันใด?



"เอ่ยฉันใด?"


จะเก็บดาวกี่ดวงบนห้วงฟ้า
กี่จันทรามาร้อยถักถ้อยฝัน
กี่คิดถึงดึงผูกทุกรำพัน
กี่คืนวันกลั่นกรองทำนองกานท์

จึ่งจะไขรู้สึกที่ลึกซึ้ง
อันตราตรึงแนบเนาว์เข้าผสาน
ด้วยเนื้อแท้แก่ "รัก" ประจักษ์มาน
ในสายกาลเวลาว่า "เพียงใด"

จะกลั่นพจน์แค่ไหนใจรับถึง
และลึกซึ้งถึงฝันอันหวามไหว
จะส่งเสียงอันดังอย่างเท่าไร
จึงจะไขรักนั้นที่ฉันมี

อยากจะมอบความรักที่มากล้น
ให้บางคนรับเอาเข้าวิถี
ลมหายใจเข้าออกตรอกนาที
จะเอื้อนเอ่ยวจีนี้ฉันใด (..ดีนา..)


ว่ารักนะ.. อายแบบน่ารัก

09 ธันวาคม 2010

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"ดอกรักบนยอดงิ้ว"


"ดอกรักบนยอดงิ้ว"

ใครหรืออยากปีนงิ้วชันลิ่วสูง
ด้วยทาสรักชักจูงให้ยุ่งเหยิง
ปล่อยหัวใจตกต่ำระบำเพลิง
เมาระเริงกาเมเล่ห์ความรัก

จิตอันซ่อนอ่อนไหวใต้วงกต
ทางเคี้ยวคดลดหลั่นกั้นสลัก
ดูวุ่นวายวนเวียนอิดเอียนนัก
คราจูงชักดึงเร้าเรื่องคาวใด

พบหน้ากันครั้งแรกก็แปลกอยู่
พิศเสียงดูรู้เห็นเป็นแบบไหน
เพ่งท่าทางอย่างนั้นอันหวามใจ
ตรองนิสัยใคร่หลงดงมายา

กลิ่นกายอันยวนเย้าเร้ารู้สึก
ในสำนึกดึงไว้ใช่แน่นหนา
คือมนุษย์ผุดว่ายใต้เวลา
ของกามาม่านงิ้วพลิ้วรำบาย

ความรักบานม่านตาเลือนพร่าบอด
รักบานยอดปลายงิ้วเป็นทิวสาย
มิรู้หนามแหลมตำทำระคาย
ยลยอดปลายตาพิศหวังปลิดครอง

ป่ายปีนทั้งร่างกายที่ไหวเปลี้ย
หนามไล้เลียทิ่มแทงแหยงสยอง
หวังเชยชิดปลิดดอกออกเรืองรอง
เหมือนรักมีเจ้าของจึ่งหมองตรม

เป็นความบาปหรือผิดที่คิดรัก
ติดกับดักหัวใจไม่เหมาะสม
คงไม่ผิดหรอกรักหากแค่ชม
แต่คงล่ม "เพราะทำ" ย้ำบาปรัก

 15 มกราคม 2011

   
ที่เกี่ยวข้อง     "มาลัยดอกงิ้วริ้วลายดอกรัก"

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"ดาวกลางใจ"



"ดาวกลางใจ"

สาวน้อยค่อยๆอาย 

คอยเธอมานับดาวที่พราวฟ้า
จวบเวลายาวนานผ่านลับล่วง
ยังไร้แววเธอมาเริ่มล้าทรวง
เสียงเวลาก็ทวงล่วงอรุณ

จะกี่พันหมื่นดาวที่เรานับ
ทุกดวงจับพักตร์เธอเพ้อหัวหมุน
หนึ่งดาวดวงหวงแหนแสนละมุน
รอไออุ่นแห่งรักจักหวนมา

นับเวลาฟ้าเคลื่อนดาวเดือนดับ
สิ่งตอบรับคือเงียบเทียบเวหา
ดาวและเดือนเคลื่อนอับลับเมฆา
ดาวชะตาคนคอยก็น้อยใจ

แสงตะวันผันฟ้าจะมาแล้ว
เลือนลางแววคนมาจะถามไถ่
เธอหลงทางแสงสีอยู่ที่ใด
จึงลืมใยรักเก่าที่เฝ้าคอย

กี่ร้อยพันดวงดาวที่พราวฟ้า
สุริยาแผ่คลุมกลุ่มดาวถอย
เลือนลาหายกลายไปไร้ร่องรอย
ดาวใหญ่น้อยเหลือศูนย์อาดูรย์มาน

กี่หมื่นรวงดวงดาวที่เราจ้อง
ยังเป็นรองดวงตาคราผสาน
สื่อจากเธอส่งซึ้งตรึงตระการ
แลตระหง่านกลางใจไม่รู้ลืม


"นับจนเช้าแล้ว..นับได้ดวงเดียว..  สาวน้อยค่อยๆอาย

19 ธันวาคม 2010

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

~” ใจบางบาง “~

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

~” ใจบางบาง “~


ใจบางบางอย่างนี้ที่ซ่อนเงื่อน
หาทางเลื่อนเคลื่อนปมดูจมหนัก
กับหัวใจแค่เนื้อเจือความรัก
จะผิดหลักอันใดเป็นไปแล้ว

เป็นความผิดหรือไรหากใจซื่อ
รักมั่นถือซื่อตรงยังจมแผ่ว
สิ่งตอบกลับลับหายไร้วี่แวว
รักเปลี่ยนแนวแถวบิน..ในจินต์ใคร

รักครั้งแรกแทรกไว้ให้แปลกอยู่
เหมือนว่ารู้ต้องฝังยังตรงไหน
จึงครองหลักปักทิ้งดิ่งฝังใน
แม้เวลาผ่านไปยังไม่คลอน

เหมือนหนามตำทำไว้เป็นไข้พิษ
ไม่สะกิดเอาออกก็หลอกหลอน
ต้องอักเสบเป็นหนองร้องวิงวอน
ให้หายร้อนปวดแสบแบบคร่ำครวญ

หรือต้องซ้ำช้ำชอกถลอกอีก
หัวใจฉีกต้องซ้ำแม้กำสรวล
จึงจะมีภูมิต้านรักรัญจวน
กี่กระบวนหัวใจจึงไหวนา

หรือต้องเจ็บซ้ำซากหากเรียนรัก
จึ่งตั้งหลักรู้ทิศปลิดความปร่า
กี่ความเจ็บเหน็บเศร้าจะเข้ามา
จึงชินชาหัวใจได้เสียที


~ masapaer~
15 ธันวาคม 2010


วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

“ช่างเถอะ!..ฉันมันก็แค่..?”


“ช่างเถอะ!..ฉันมันก็แค่..?”


เธอสร้างตราบาปไว้แล้วไกลจาก
มอบแผลฝากซากคนแหลกป่นปี้
กลายสภาพสาปสู่ผู้ภักดี
ให้จมสู่อเวจีนี้ทั้งเป็น

สะอึกอั้นกลั้นร้องก้องรู้สึก
กับเจ็บลึกฝังในเธอไม่เห็น
คงสะใจได้เชือดแบบเลือดเย็น
คนกระเด็นเซ่นใจคือใครกัน

ฉันคงแค่ขอทานที่ร่านรัก
รอเศษใจเธอควักฝากลงขัน
ต่อชีวิตของใจไปเพียงวัน
แค่คนรั้นยื้อใจให้เธอแล

รักที่สร้างวางลงคงสูญเปล่า
ได้แต่เฝ้าเกาเก็บเย็บรอยแผล
เป็นเศษเถ้าเก่าร้างทางรักแปร
หรืออาจแค่ของว่างทางใจคน

แก้วขยะคละเกลื่อนเปื้อนดินฝุ่น
ยังเอาหมุนเวียนใหม่ใช้อีกหน
บัดหัวใจใช้แล้วแผ่วกมล
มิมีใครใคร่ยลมลทินครอง

จะเอาน้ำอันใดใคร่ชะล้าง
ช่วยสะสางราคีที่ขื่นหมอง
สายตาเธอเผื่อแผ่แค่หันมอง
คล้ายเป็นของเก่าผุลุใกล้พัง

เถอะชะตาคนบาปถูกสาปรัก
ถูกปฏักปักลงตรงกลางหลัง
ฉันก็แค่เศษเบื่อเหลือกำลัง
ของเธอแล้วกระมัง..จึ่งร้างลา


~masapaer~
11 พฤษภาคม 2011

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หนูน้อย




หนูน้อย
เจ้าละห้อยคอยใครที่ไหนหรือ
รอความหวังตั้งใจได้หยิบมือ
เขย่งยื้อถือดาวที่เฝ้ารอ

สะพานรุ้งโค้งฟ้าไกลตานัก
มีกับดักกวักลวงเป็นบ่วงล่อ
ควักวิญญาณบริสุทธิ์ดุจรุ้งทอ
ให้จมต่ออบายทำลายกัน

เจ้าจะคว้าความฝันของวันไหน
เอาหัวใจใส่เท้าเข้าคว้าฝัน
ทนแรงต้านชันเพียบพร้อมเหยียบมัน
ทนแววตาเย้ยหยันอันเย็นชา

ทุกขณะแขนกลึงถูกตรึงหนาม
รับรสความเจ็บแสบแทบผวา
สายสินธุ์ใจไหลหลั่งคลั่งดวงตา
ฝังปวดล้าภายในใครอาจเมิน

ทุกรอยยิ้มพิมพ์ไว้เพื่อจ่ายแจก
เป็นของแลกความฝันอันผิวเผิน
เป็นค่าด่านผ่านเหวอาจเลวเกิน
กว่าหนูเจ้าเคยเดินอย่างเพลินทาง

แสงข้างหน้าจ้าเกินกว่าเพลินจ้อง
มิอาจมองปองดูสู่โลกกว้าง
ไหวหรือ? เจ้าเฝ้าฝันอันเลือนราง
ใต้ปีกบางห่างเกินจะเหินไป

หยิบขึ้นมาอาวุธประดุจแก้ว
ทุกห้องแนวปัญญาจงคว้าไขว่
เพื่อเบิกทางขวางปรก..รกทางชัย
จากหัวใจดวงแกร่งแห่งเจ้าเอง

ยิ้มแก้มแดง

 29 เมษายน 2011

วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"ถามยาย"


"ถามยาย"


หนุนตักยายฟังคำที่พร่ำสอน
คำบวรสอนหลานผสานผล
กลัวหลานอายให้ต้องหมองดวงมน
เกรงเขายลสูญเสียเพลียหัวใจ

โธ่ !ยายจ๋าหลานยายกลัวสายนัก
หากจะรักแต่ช้ากว่าพบได้
ทั้งสังขารผ่านเกินเจริญวัย
อายุไปไม่ทันขันธ์ร่างกาย

มันร้อนรุ่มกลุ้มหนาวเข้าห้าสิบ
รักไกลลิบหยิบมือ ฮื้อ! ใจหาย
ยังมิเคยเรียนรักจักเปล่าดาย
นะคุณยายไขเพิ่มเสริมปัญญา

คืออะไรกันแน่แค่หนุ่มจ้อง
เสียงใจก้องร้องถี่แทบปรี่หา
หนูอายจังครั้งชายใกล้สบตา
ใจประหม่าสั่นรัวทั่วสรรพางค์

ชายหนุ่มน้อยคอยมองคล้องคำหวาน
ใจลนลานไหวยวบจวบฟ้าสาง
ถามยายจ๋าหากชายเข้าใกล้นาง
มีหนทางอย่างใดให้วางตัว

โอกาสมีไม่มากแม้อยากใกล้
ประหวั่นใจวัยหลานนั้นเริ่มหลัว
เกรงเกรงกึ่งกล้ากล้าคละกลัวกลัว
เอาให้ชัวร์นะยายทำไงดี..อิอิ

หลานขี้สงสัย..

วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

“ยายจ๋า..อยากถามยาย?”




“ยายจ๋า..อยากถามยาย?”


เขาว่าคนมีคู่ดูเป็นสุข
เขาสนุกสำราญสวรรค์สร้าง
จริงหรือยายบอกหนูให้รู้พลาง
ตอนยายว่างสอนหนูให้รู้ที

ยายจ๋ายายตอนนี้มีเรื่องแปลก
ดรุณแรก..แตกเนื้อสาว..หนาวฉวี
เป็นอย่างไรยายเอ่ยเปรยก่อนมี
สมัยที่ยายรุ่นดรุณกาล

ยายจ๋ายายไยหนูดูตื่นเต้น
เหงื่อกระเซ็นเป็นคลองหนองละหาน
ยายจ๋ายายหนูหวามตามดวงมาน
เมื่อเห็นเพื่อนข้างบ้านเดินผ่านมา

นะยายจ๋าสอนหนูให้รู้หน่อย
หนูใจลอยบ่อยเกินเขินประหม่า
เดินผ่านชายรูปงามยามสบตา
เขินมากมายยายจ๋าน่าอายจัง

ตอนยายสาวคราวรุ่นดรุณแรก
ยายมีไหมหวิวแปลกแทรกเหมือนคลั่ง
ยายจ๋ายายไขเพียงอย่าเสียงดัง
เดี๋ยวข้างหลังได้ยินมิสิ้นอาย

ยายจ๋ายายเมื่อหนุ่มมากรุ้มกริ่ม
ทำเป็นยิ้มสบตาหาความหมาย
ใจมันเต้นสะเทือนเหมือนละลาย
หนูต้องตายหรือไม่ไขหลานที

..นะจ๊ะยาย..

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

~ตัดเสื้อใส่ตัว หรือตัดตัวใส่เสื้อ~





~ตัดเสื้อใส่ตัว หรือตัดตัวใส่เสื้อ~


หากรักคือรองเท้าที่เราเลือก
อาจแค่เปลือกการคัดจัดสนอง
ให้พอดีที่เป็นเช่นครรลอง
กับสิ่งผองโดยนัยให้สมกัน

เท้าของเรายิ่งใหญ่ในบทหนัก
รับรองรักจากใครคล้ายเพียงสั้น
ใครจะมองเห็นใจในสำคัญ
ทาโลชั่นแค่พักตร์ชักน้อยใจ

เหมือนครั้งหนึ่งพึงรู้สู่การเลือก
คัดเอาเปลือกป้องแดดความแผดไหม้
เราตัดเสื้อเพื่อคลุมกลุ่มแดดไอ
จงพอดีพอไหวให้สมกาย

มิใช่เลือกตัดกายเพื่อใส่เสื้อ
แม้งามเหลือเพื่อใดในสิ่งหมาย
จะตัดเสื้อเพื่อใส่ได้สบาย
หรือยอมตายตัดตนเพื่อยลแพร

เหตุผลใดให้เจ็บเหน็บน้อยสุด
เราคงหยุดเลือกได้ห่างไกลแผล
เลือกให้เหมาะกระบวนสมควรแล
เอาให้แน่นอนที่สุดจุดควรเป็น

เลือกไม่เหมาะเพราะใดใคร่ศึกษา
ทำเหวี่ยงขาหน้าแพรก็แค่เห็น
ย้ายมาเปลี่ยนเวียนปรับจับประเด็น
ด้วยใจเย็นเห็นต้นลองค้นดู

เย็บแต่งหน่อยค่อยตัดจัดมุมเสื้อ
ตกแต่งเพิ่มเสริมเอื้อได้เสื้อหรู
เหมือนความรักภิรมย์ไงโฉมตรู
น่าชื่นชูขึ้นมากหากปรับใจ

(ตอบกลอนลุงปรางค์ จากรองเท้ากัความรักที่บ้านกลอนไทย)

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

“เสียงเงา”


“เสียงเงา”


กอดกับลมห่มเงาเหงาอย่างนั้น
สร้างความฝันเติมใจพอคลายเหงา
หวังเติมเต็มเปรมใจไว้เพียงเรา
คงมิเศร้าเกินไปกว่าใจทน

คนช่างคิดติดฝันมันแค่นี้
วัตถุดิบวจีมีเพื่อผล
เป็นงานสร้างตั้งใจในกมล
เกิดกลอนกลยลเล่นเป็นประจำ

จะอ้างอิงจริงเท็จเคล็ดจากไหน
หากหัวใจไม่แท้แค่กลืนกล้ำ
หวังแววตาสื่อผ่านประสานคำ
เป็นบทนำของใจใส่เรื่องราว

คนกอดลมห่มหนาวก็ร้าวเหลือ
สร้างบทรักถักเมื่อเริ่มเบื่อหนาว
สร้างบทเจ็บเหน็บเล่นเป็นครั้งคราว
ซ้อมความร้าวฉานรอพอสะใจ  

พระเอกเงาเขาซ่อนทำร้อนนัก
ร้ายก็หนักหักทรวงทะลวงไหม้
ต้องกอดลมห่มเงาอีกเท่าใด
จึงเปลี่ยนได้เต็มร่างอย่างภาวนา

เสียงเงาเพรียกเรียกหลอกกรอกหูเล่น
ทำจิตใจไหวเอนตระเวนหา
“อยากเปลี่ยนเป็นตัวตนคนขึ้นมา”
ปลอบอุราคนเศร้าให้เหงาคลาย

เสียงเงาเพรียกเรียกซ้ำเหมือนคำยั่ว
สร้างความกลัวยั่วซ้ำทำใจหาย
แท้ก็เสียงปรารถนาคราเดียวดาย
มิมีกาย..พระเอกเงา..เขาไม่มี

...ตัวตน...
11 กุมภาพันธ์ 2011

ติดตามอ่าน           ~ พระเอกเงา ~

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

“ ฉันเป็นดวงใจ “


“ ฉันเป็นดวงใจ “


ฉันอาจแค่มนุษย์ผู้ผุดว่าย
ใกล้ความตายกรายย่างทางบางแห่ง
มิใช่เอกเทพไทใดจำแลง
สิ่งแสดงออกไปไม่ชวนมอง


อาจแค่คนคอยสร้างทางความรัก
ด้วยตระหนักเนื้อแท้แก่เจ้าของ
เธออยู่เหนือใจเป็นเช่นผู้ครอง
พร้อมสนองแก่เธอเสมอไป

อาจเป็นแค่ก้อนเนื้อคอยเจือรัก
คอยพิทักษ์รู้สึกส่วนลึกให้
คอยปลอบขวัญวันล้มขมทรวงใน
คอยเป็นใจไว้เผื่อเพื่อเติมรัก

เป็นได้เพียงเท่านี้ที่ทำได้
เป็นอะไหล่ใจพลีที่แน่นหนัก
เถอะจงใช้ให้พอต่อการพัก
ผ่อนความหักอ่อนล้าคราอ่อนมาน

ให้ฉันเป็นดวงใจไว้ทดเทิด
เป็นหุ่นเชิดตัวไหนได้ทุกฐาน
เป็นตัวแทนของใครได้ทุกกาล
เป็นตำนานวันเก่าแม้เงากลืน

เก็บไว้นะต่อเติมเพื่อเพิ่มหวัง
เป็นพลังต่อใจในครั้งฝืน
เมื่อเธอแกร่งผงาดและหยัดยืน
เธอจะคืนก็ได้ไม่ว่ากัน

~มะสะแป~
14 พฤษภาคม 2011

นิยมสูง

อาคันตุกะ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ถูกอกถูกใจกดไลค์กดแชร์นะคะ