หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554

~พรปีใหม่~



~พรปีใหม่~


วัฏจักรกาลเวลามาบรรจบ
เถลิงภพครบรอบขอบดิถี
เวียนวรรษาวาระรอบธานี
สู่โสมศรีปีใหม่ในปฏิทิน



สุริยะจักรวาลผันเปลี่ยนศก
พรดิลกประสิทธิ์นิมิตศิลป์
เจิมประภาหล้าแจ้งแห่งธานินทร์
ทั่วแคว้นถิ่นเมืองรัตน์ร่มฉัตรแดน

นำมาลัยประดิษฐ์วิจิตรน้อม
ศิระค้อมน้อมไหว้ใจมั่นแม่น
ขอพรชัยจตุรพิธลิขิตแทน
ประทับแน่นอวยชัยให้มงคล

พระพุทธานุภาพก้มกราบแก้ว
อันผ่องแผ้วจำรูญจงหนุนผล
ส่งสวัสดิ์น้อยใหญ่ให้ปวงชน
เทวาดลรักษาทุกคราไป

พระธรรมานุภาพขอกราบก้ม
เป็นมิ่งพรหมดวงตามรรคาใหญ่
กระแจะแต้มจุณเจิมเสริมโชคชัย
สวัสดิสมัยในเร็ววัน

พระสังฆานุภาพก้มกราบน้อม
ศรัทธาพร้อมเกื้อหนุนบุญส่งมั่น
เป็นปราการเทเวศร์เขตป้องกัน
ต้านภัยอันตรายอย่ากรายมา


ทิพย์พรชัยไตรรัตน์อันประเสริฐ
พิสุทธิ์เกิดเรืองโรจน์โปรดรักษา
ขออัญเชิญมิ่งขวัญอันโสภา
ประดิษฐานอุราชนะพาล

ขอเดชานุภาพด้วยกราบแล้ว
เป็นมิ่งแก้วมิ่งขวัญอันผสาน
ป้องอุปัทวะชนะมาร
อภิบาลปวงไทยให้สวัสดี.

สวัสดีปี ๒๕๕๕  ประสบสุขสมปรารถนากันทุกคนค่ะ...

(กลอนเข้าประกวด ชนะเลิศ ที่เว็บบ้านกลอนไทย ประจำเดือน ธันวาคม  ๒๕๕๓ )




วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เธอคนใกล้..ไม่เหมือนเดิม


"เธอคนใกล้..ไม่เหมือนเดิม"


ยังรอเธอตรงนี้ตรงที่เก่า
ลอบดูเงาเคลื่อนไหวไล้ลมแผ่ว
ประหวั่นใจคล้ายหมอกบอกวี่แวว
เหมือนดวงแก้วของใจคล้ายห่างลา


เธอเคยคลอมือสอดกอดข้างหลัง
กระซิบยังอ่อนไหวใจโหยหา
ยิ้มรับสรวลในกอดตลอดมา
บัดนี้หรือเวลาสร้างกลลวง

กำหนดใจให้รออย่างประหวั่น
กุมมือสั่นหวั่นไหวใจแทบร่วง
กลัวตัวเราหมดค่าราคาควง
ใจสองดวงอาจคลายในสันพันธ์

ที่ตรงนี้ของเราที่เฝ้ารัก
ต่างทอถักรักงามตามความฝัน
แต่รู้สึกส่วนในไยห่างกัน
ลางสะบั้นบอกไว้ในเงาเธอ

เธอคนใกล้ไกลห่างอย่างช้าช้า
มันเสียวแปลบอุราตาพร่าเอ่อ
หรือที่ผ่านคือเงาเราละเมอ
บ้าหลงเพ้อคว้าเงาเอามาครอง

เธอคนใกล้..ไม่เหมือนเดิม..เริ่มใจท้อ
ใจที่รออย่างหวั่นพรันเศร้าหมอง
หมดเวลารักเราที่เฝ้าปอง
หรือมีใครเฝ้าจองคล้องใจแทน
 
 
มะสะแปค่ะ
 28/08/2010


 

ฝันสลาย


"ฝันสลาย"

ฝันแอบฝันมั่นไว้ในดวงจิต
หากชีวิตมิหมองต้องห้อยโหน
เราคงเพลินในสุขทุกข์มิโดน
ฝันไกลโพ้นล้นต่อมล้อมดาวดึงส์        ยิ้มกวนตีน


มีเธอคอยดูแลแหมน่ารัก
ให้ฉันคอยหนุนตักมากคิดถึง
ส่งดอกไม้ให้นะ..อ๊ะ  !ตราตรึง
คอยรำพึงถึงคำพร่ำรักเรา      โฮ่ะ ๆๆๆ

จะเป็นลมล้มลงตรงเข้าโอบ
มิใช่โลภนะใจ..อยากใกล้เขา
คอยเอาใจไม่ขาดมาดไม่เบา
ตามเป็นเงาเทคแคร์แหม...ชื่นใจ   หน้าโคตรลามกน้ำยายไหย

กรี๊ด..! แหวนเพชรเม็ดโต้โก้ไม่หยอก
เธอรีบบอกมานี่พี่ซื้อให้
นั่นก็เก๋เหล่เบนซ์.."เป็นไรไป
จะเท่าไหร่ให้น้องไม่ต้องกลัว"
  โฮ่ะ ๆๆๆ

เสียงสนั่นลั่นห้างต่างก็หัน 
"เธอคือใครไหนกันอย่าดันมั่ว
พ่อตัวร้ายมานี่หนีหายตัว
ทำลิ้นรัวหลอกใครให้ระอา"
   โกรธว๊อย

ได้แต่มองจ้องเงาเขาไปแล้ว น้อยใจแถมบ่น
ทิ้งแม่นางตาแป๋วแห้วแล้วหวา ทำตา ปิ๊งๆ
ดีไม่โดนอรหันต์หัตถามา
ฝันสลายต่อตา...ว๊า !...เสียดาย  ( จัง)  ยิ้มกวนตีน   

10/09/2010


หัวเราะเยาะ

ของสะสม






วันเวลาผันผ่านมานานเนิ่น
ดอกเบี้ยเพลินทบต้นเกินทนไหว
สะสมภาพความช้ำความเป็นไป
บานตะไทดอกช้ำก็ยามนี้

เรื่องเก่าใหม่ใครแยกให้แปลกนัก
สะสมรักอันช้ำยามหมองศรี
แม้เนิ่นนานผ่านไปไกลข้ามปี
กลับทวีความเจ็บเหน็บตามทัน

สะสมไว้อย่างนั้นก็พลันเพิ่ม
จากเท่าเดิมเพิ่มค่าอุราหวั่น
ทวีคูณทบต้นผลของมัน
แต่ให้ฉันทิ้งไปไม่อาจทำ

เป็นส่วนหนึ่งของใจไปเสียแล้ว
เป็นทิวแถวแนวใจให้ถลำ
เป็นของฝากฝังไว้ในทรงจำ
เป็นสิ่งล้ำเลอค่าคราเปิดชม

มีความหอมกล่อมหวานซ่านสัมผัส
เป็นประวัติความงามที่ตามข่ม
มีความเจ็บเหน็บล้าปร่าระทม
มีสิ่งตรมมีเศร้าเฝ้าขมกลืน

เปิดกำปั่นหัวใจใช้สะสม
ความระทมตรมรักกระอักฝืน
เศษที่เหลือของใจไม่หวนคืน
เก็บสะอื้นชื่นชมให้สมใจ

"มะสะแป..เช่นเคย"
15/10/2010

คนฟั่นเฟือน



คนฟั่นเฟือน
 เวรกรรม เจงๆ

ยืนตัวทื่อรื้อใจไขไม่ออก
สิ่งที่เห็นเค้นยอกซ้ำหลอกหลอน
ภาพวิวาห์พาหวั่นจิตสั่นคลอน
เมื่อทุกตอนฉากนี้ไม่มีเรา


น้ำตารินหยาดแก้มแต้มเลอะหน้า
บัดดวงตาเหม่อหม่นของคนเศร้า
ปากกลับยิ้มหัวเราะแบบเยาะเอา
จมกับทุกข์มัวเมาคว้าเงาใจ

เสียงโห่ร้องก้องโสตกดประสาท
วิปลาสฟั่นเฟื่อนเฉือนเผาไหม้
คำสัญญาของเธอเลอะเลือนไป
ทิ้งรักเก่าเราไว้ให้ลับลา

เสียงสะอื้นกลืนลบกลบความหลัง
เมื่อภาพครั้งเก่าก่อนย้อนคืนหา
ผุดเยาะเย้ยกระหน่ำซ้ำอุรา
ให้วิญญาณ์ร้อนเร่าเศร้าทรมาน

เสียงกระหน่ำซ้ำหนักทักคนบ้า
คนตราหน้าฟั่นเฟือนเหมือนประหาร
อยากลืมว่าเป็นใครในวันวาน
ไม่อยากรับคำขานสงสารนั้น

คนฟั่นเฟือนเลือนโลกโศกสนิท
แต่มิปิดหัวใจอันไหวหวั่น
ให้บ้าบอต่อเลือนเบือนนิรันดร์
แต่ใจฉันนั้นไยไม่ลืมเธอ

"มะสะแป"

25/10/2010

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หมู่ไม้ไร้ภมร



"หมู่ไม้ไร้ภมร"

เป็นบุปผากลีบงามแค่ยามเช้า
ภมรเฝ้าดมดอมพะยอมป่า
สิ้นกลิ่นหอมรสหวานก็ผ่านลา
มิชายตาแลเยือนเหมือนวันวาน



เป็นดอกไม้ไม่หอมไม่ย้อมกลิ่น
เฝ้าถวิลภมรซ้อนรักหวาน
เมื่อบุปผาลาร่วงตามห้วงกาล
เธอก็หว่านกลีบโรยโปรยทิ้งดิน

ใช่อยู่หรอกดอกไม้มากมายนัก
ภมรเจ้าปีกรักจักโผผิน
ปีกสยายทายท้าถลาบิน
ไปทั่วถิ่นดงทิวริ้วผกา

เที่ยวบินชมดมดอกทุกซอกซ้อน
ทำกะล่อนซ่อนชู้หมู่บุปผา
เบื่อดอกเดิมทิ้งไกลไปไม่มา
เมื่อโรยรากลิ่นอ่อนภมรไกล

~มะสะแป~
10/11/2010

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

จำใจ จำยอม เพราะจำเป็น

จำใจ จำยอม เพราะจำเป็น

 สาวน้อยหัวเราะ

สิ้นทางรักหักพ่ายให้ยอมแพ้
ใจอ่อนแอแพ้รักกระอักหนอง
ยอมจำนนให้เธอเพ้อลำพอง
มิผยองหัวใจให้จำกลืน


เหลือแต่ความร้าวรวดที่ปวดแสบ
มันเจ็บแปลบแสบล้นระคนฝืน
เป็นฝันร้ายคร่าสุขในทุกคืน
รินสะอื้นขื่นใจให้จำทน


อยากจะลบลาภาพที่อาบรัก
ก่อนปฏักปักทรวงทะลวงผล
เกินจะฝืนกลืนไว้ในกมล
แม้หมองหม่นรนร้องต้องจำยอม


อดีตรักกักขังทั้งหน่วงเหนี่ยว
เกาะกุมเกี่ยวจองจำทำผ่ายผอม
จำฝืนเก็บเย็บแผลแม้ตรมตรอม
ใจประนอมต่อรักที่หักลวง


จำใจจากจำยอมพร้อมจำนน
มิฝืนทนจำพรากรักติดบ่วง
จำลาแล้วรักเก่าเราทั้งปวง
จำยอมห้วงกระอักเพราะรักทำ


อยากจะถอดหัวใจไปจำหน่าย
จะฝากขายที่ไหน..อย่าได้ขำ
รับหัวใจหลุดรักหักจองจำ
รอจำนำความแสบแบบเอาคืน...


..แบบจำเป็น  อิอิ   ยิ้มแฉ่งฟันหลอ


แต่มั่วได้ใจมิน้อย.. เวรกรรม เจงๆ      
18/11/2010

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

~นับดาว~



 

~นับดาว~

 สาวน้อยค่อยๆอาย

หนึ่ง  สอง  สาม  งามสายประกายพรึก
สี่ห้าหกย้ำตรึกผนึกหวาน
เจ็ดแปดเก้าเร้าใจตรึงในมาน
เด่นตระการน่านฟ้าแลน่ายล


สิบ,สิบเอ็ดเพชรนิลจินดามาศ
เลอพิลาสประกายในเวหน
ที่ร้อยสองต้องจินต์เสกศิลป์ดล
ที่ร้อยห้า..กะพริบวน..กลเทวา ?

สองร้อยสิบหยิบเงาดาวมาร้อย
ประพันธ์สร้อยคอยอินทร์ถิ่นเวหา
สามร้อยแล้วแก้วสรวงดวงดารา
หยิบจันทรา..อุบะเด่น..เพ็ญประกาย

สี่ร้อยเก้าเขาลืมหรือไรเล่า
ห้าร้อยสองต้องเหงาเราใจหาย
หกร้อยเจ็ดเพชรฟ้า..ล้ารำบาย
เจ็ดร้อยกลายดาวดับนับอีกที

แปดร้อยสามถามใจไยสับสน
นับเวียนวนคนคอยเริ่มถอยหนี
เก้าร้อยเก้าหาวแล้วแก้วฤดี
หนึ่งพันนี้ทิวาจะมาเยือน

นั่งนับดาวใช่ดาวที่พราวนึก
ภาพผนึกคือเธอเสมอเหมือน
พักตร์จรัสบังมิดปิดดาวเดือน
นับดาวเลื่อนเคลื่อนย้ายไปหน้าเธอ

หนึ่งหมื่นแล้วแก้วขวัญจันทร์ลาลับ
ดาราขับราตรีทำทีเผลอ
ปล่อยดาวดินถิ่นดงหลงละเมอ
รำพันเพ้อนับดาวรอเขามา




๑..๒..๓.....๗...๔...๒....๗....ฮ้าว!     สาวน้อยค่อยๆอาย
“มะสะแป”


~ไม่ต้องตอบก็ได้..นะ~



~ไม่ต้องตอบก็ได้..นะ~



ระยะห่างทางไกลใครขีดกั้น
ให้เธอฉันห่างเหินเดินไม่ถึง
มีเพียงเหงาเศร้าปร่าคราคำนึง
เฝ้ารำพึงถึงฝันวันเวลา


 

คิดถึงนะคราพรากจากไกลห่าง
เหงาอ้างว้างบ้างไหมใจห่วงหา
หนาวหรือไม่อย่างไรรีบไขมา
หรือร้อนกว่าที่ใดเมื่อไกลกัน

อยู่อย่างไรคนดีมีสุขไหม
เหนื่อยหรือไม่งานหนักพักหน่อยนั่น
ห่วงเสมอส่งใจไปทุกวัน
ฟ้าจะกั้นเราห่างแค่ทางกาย

เวลานอนห่มผ้าหนาอุ่นไหม
กำลังใจใฝ่สู้กู้สิ่งหมาย
ที่ฉันส่งตรงไปให้มากมาย
อย่าเปล่าดายอาวรณ์ที่ร่อนไป

อยากจะถามบางอย่างบ้างอยู่หน่อย
ว่าเธอคอยรำพึงถึงฉันไหม
อย่าพึ่งตอบก่อนฉันนั้นเอ่ยนัย
ว่าเท่าไรใจฉันนั้นคอยเธอ

ไม่ถามเธอดีกว่าอย่าตอบนะ
แม้เธอจะคิดถึงซึ้งหรือเผลอ
เพียงรู้แน่แค่ฉันฝันละเมอ
คิดถึงกันเสมอมิเผลอใจ



13/11/2010





นิยมสูง

อาคันตุกะ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ถูกอกถูกใจกดไลค์กดแชร์นะคะ