หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“ยอมแพ้แล้ว...แค่เธอ”



“ยอมแพ้แล้ว...แค่เธอ”


เธอจงใจหันหลังพลางยิ้มเยาะ
แอบหัวเราะเพราะขันให้ฉันเขิน
ช่างทำได้ใจดำแถมทำเมิน
ยังคิดเดินเมินหายไปจากกัน


สองมือฉุดต้นแขนวางแผนซ้อน
อย่าหวังถอนหัวใจไกลจากฉัน
หลากร้อยเล่ห์มายาสารพัน
พร้อมประจัญรบรักสักกระบวน

อย่าใช้ยิ้มยั่วยวนกระบวนรุก
เนตรอย่าปลุกลุกไล่คล้ายสอบสวน
อย่าประโลมคำหวานอันรัญจวน
หวังประมวลเอาชัยไม่มีทาง

ทุกครั้งเธอกำชัยไม่ลดละ
วันนี้หล่ะทีฉันนั้นได้บ้าง
เป็นทาสใจให้ฉันอย่าผันจาง
ตลอดอย่างนิรันดร์นั้นอย่าไกล

เสียงหัวใจกึกก้องดั่งกลองรบ
สนั่นกลบทุกเสียงเพียงเคลื่อนไหว
จับแผนการฝ่ายหนึ่งพึงชั่งใจ
ระวังภัยคุกคามทำเพลี่ยงพลั้ง

สองแขนเธอล้อมกอดพลอดคำหวาน
มิทัดทานคล้ายตนถูกมนต์ขลัง
ต้องจำนนท์หัวใจไม่ระวัง
กับแรงรั้งนุ่มนวลแทบป่วนมาน

ฤาจะแพ้อีกครั้งแล้วอย่างนี้
เธอคนดีเลิกมองจ้องประสาน
ฉันคงแพ้..แพ้เธอเพ้ออีกนาน
แพ้ซมซานยอมใจมอบให้เธอ.....อีกแล้ว

30 กรกฎาคม 2011

ซบ..นอกระบอบ



ซบ..นอกระบอบ

Icon Mini 
รักของเขาลงทุนหมุนรายจ่าย
คงซื้อขายใจเล่นเน้นสะสม
ให้ติดบ่วงนักตุนทุนนิยม
จึงระงมเจ็บแสบแบบสาใจ


ปิดบัญชีหนี้รักหักติดลบ
เสียดุลงบประมาณสานมิไหว
เสียดอกเบี้ยเพลียรักหนักทรวงใน
ถอนยังไงติดลบงบบานปลาย


โอนดอกรักสายด่วนทบทวนด้วย
ไม่รับส่วยคนไหนให้เสียหาย
โอนสนั่นขวัญพี่นี้ตาลาย
ส่งสุดสายปลายทางนางใดกัน

รักเรือนต้น..ไม่ได้รับ..กลับจ่ายดอก
คล้ายโดนหลอกชอกช้ำทำเสียขวัญ
ทุนทรัพย์อับรักหักรอวัน
หมดประกันหัวใจไร้ทุนรอน

ถูกพิษรักนอกระบบตบที่หน้า
น้ำเนตรบ่านองใจไม่อาจถอน
ซบอกพี่นอกระบอบกรอบชักคลอน
รักลุ่มดอนซ่อนเงื่อนเฉือนบัญชี

กะเรียกคืนเตรียมพร้อมแม้ตรอมกลับ
ก็ว่าสับด้วยทวนสวนแล้วหนี
รวบคิดถึงหมัดตรงลงฤดี                     
กลับเสียทีเพราะง้าวเขาสวนคืน  งอนแล้วด้วย


มะสะแป   

"สะกดคำรัก"




"สะกดคำรัก"


เธอคอยสอนสะกดบทความรัก
คนจมปรักรักเก่าเป็นเงาฝัน
เพราะสะกดไม่ถูกผูกสำคัญ
จึงจาบัลย์ระทมขมทรวงใน


ลงทะเบียนเรียนรักจากเธอแล้ว
คงมิแคล้วกลัวตกอกหมองไหม้
ต้องผ่านเกณฑ์สะกดจดเท่าใด
ถึงเข้าใจคำรักสักกระบวน

นั่งสะกดคำรักชักความหมาย
ติดกับคำเดียวดายให้กำสรวล
สะกดรักชักหวั่นขวัญก็รวน
ครูช่วยทวนคนไหนใคร่ดูแล

ติดที่ริมฝีปากกระดากนัก
มิกล้าทักเปรยเสียงสำเนียงแย่
รอเท่านั้นใช่ไหมที่ให้แปล
มิใช่รอ..รักแท้..อันแน่นอน

เสียงหัวใจพร่ำเรียนอยากเขียนรัก
หวังเธอทักสักนิดสะกิดสอน
แอบประหวั่นวิตกอกสั่นคลอน
กลัวผิดซ้อนซ้ำซากลำบากจัง

สะกดรักผิดซ้ำทำไฉน
ถูกสะกดหัวใจให้เธอขัง
จองจำรักแก่เธอเพ้อเพียงพัง
สุดท้ายยังสะกดผิด..ไร้สิทธิ์รัก?

13 สิงหาคม 2011

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“เขาเป็นใคร? ไยเราเฝ้ารอนัก”




“เขาเป็นใคร? ไยเราเฝ้ารอนัก”


กี่ฝนแล้วหนาวใจใต้ลมฝน
กี่คราวหนหนาวใจใต้ลมหนาว
กี่ราตรีทอดถอนนอนดูดาว
ใต้ฟ้าพราวลำพังข้างระเบียง



กี่ทิวาผ่านผันวันเปลี่ยนโศก
กี่วิโยคโลกหมุนลุ้นแตกเสี่ยง
กี่เพลากันเล่าเฝ้ารอเพียง
สักหนึ่งเสียงกระซิบพริบดวงมาน

กี่นึกฝันนอนนับจับท้องฟ้า
กี่เมฆาเบาบางต่างลอยผ่าน
กี่สายลมพรมพลิ้วปลิวตามกาล
ฝากเป็นทานชโลมพรมใจเรา

กี่น้ำค้างหยดทิ้งกิ่งไม้ไหว
กี่หัวใจได้อยู่คู่หายเหงา
กี่นาทีผ่านไปยังไร้เงา
“ใคร” คือ “เขา” เราคอยละห้อยครวญ

กี่คำร้อยสะท้อนความอ่อนไหว
กี่มาลัยประพันธ์รักผันผวน
กี่ประพจน์จำนรรจ์ฝันรัญจวน
ทุกกระบวนล้วนสื่อ"เขา" คือใคร?

กี่ผู้คนผ่านพักตร์ประจักษ์มิตร
กี่ลิขิตฟ้าสร้างมองทางไหน
กี่ครั้งนะครั้งนี้ที่เท่าไร
ทำฉันใดให้เหงาบรรเทาลง

“เขาเป็นใคร? ไยเราเฝ้ารอนัก”
รอความรักจากเขาเฝ้าประสงค์
กี่ความเหงายาวนานอันยืนยง
สุดท้ายคงคือ ”เหงา” แทนเงาเธอ

08 มิถุนายน 2011



วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

" วิถีคนลวง “"


 

" วิถีคนลวง “"


ภาพสิ่งของย้ายเคลื่อนเกลื่อนเต็มห้อง
เห็นเธอหมองร้องร่ำคร่ำถวิล
เสียงสะอื้นฝืนกลั้นสั่นรวยริน
เธอมิยินเสียงใดหรือไงกัน


ใจที่เจ็บกดแค้นแน่นสะอึก
ความร้าวลึกแผลเก่าเข้าเย้ยหยัน
อดีตร้ายใครร่างและสร้างมัน
 ยิ่งนานวันยิ่งเจ็บเหน็บเหลือเกิน

เห็นภาพเธอเพ้อพร่ำในยามนี้
เหมือนครั้งที่เราเจ็บเหน็บนานเนิ่น
เธอโหยหาอ้างว้างไร้ทางเดิน
เธอเผชิญเหมือนฉันครั้นก่อนกาล

เหมือนเห็นภาพก่อนเก่าเราเคยบ้า
ไร้ราคาค่าหมองต้องไฟผลาญ
เมื่อครั้งหนึ่งบอบช้ำคำลวงมาน
ที่เธอหว่านเพื่อลวงถ่วงเวลา

หนทางจบคนลวงสร้างบ่วงรัก
เธอประจักษ์หนนี้ที่ก่อนหน้า
เคยลวงมานผลาญใจใครเรื่อยมา
คงเจ็บสาแก่ใจใครหลายคน

เอื้อมมือหวังอยากใกล้ไล้ดวงขวัญ
อยากรื้อฝันอันเก่าเราเพียงหน
แต่แผลเก่าเผาไหม้เกินใจทน
กลัวความหม่นซ้ำรอยขอถอยไกล

แล้วเมื่อถึงคราวเธอเจอเจ็บบ้าง
วิถีทางคนลวงเจ็บหน่วงไหม
เมื่อครั้งหนึ่งเธอจากพรากรักไป
ทำลายใจใครคนให้ทนกลืน

เจ็บบ้างไหมคราวนี้ที่ต้องพบ
เส้นทางลบหัวใจให้ขมขื่น
ณ จุดนั้นฉันเล่าเคยเฝ้ายืน
เจ็บสะอื้นฝืนข่มตรมเพราะเธอ...คนลวง  งอนแล้วด้วย

  

"มะสะแป"
03/11/2010
 

กล่อมฝัน..ขวัญกวี”



กล่อมฝัน..ขวัญกวี”


ยอประพันธ์ขวัญกานท์แว่วขานขับ
โสตสดับสำเนียงเพียงโฉมศรี
โอบขวัญมานล้อมกอดพลอดพจี
ส่งสู่จินต์น้องพี่กวีจร


หลับตามพริ้มอิ่มหอมพะยอมแต่ง
ร่ายสำแดงแจ้งรักถักอักษร
ระบำดาวระย้าท้าอัมพร
เรืองบวรงามรับกับนงเยาว์

เดินตามทางช้างเผือกเทือกภูผา
ดาวประดับงามตาคว้าคลายเหงา
ม่านราตรีคลี่กลบ..ลบหมอกเทา
จึ่งพบฝันของเราที่เฝ้ามอง

จับต้องแสงระยิบกะพริบพลิ้ว
ประกายเพ็ญเด่นปลิวละลิ่วล่อง
เป็นของฝากจากใจใสเรืองรอง
ทอแสงทองเป็นแพรห่มแก่กัน

หยิบแพรพรมห่มร่างอย่างอบอุ่น
ด้วยละมุนกรุ่นรักสลักฝัน
กอดประทับจุมพิตชิดรำพัน
หวังปลอบขวัญคนดีที่นิทรา

หลับด้วยความหวานชื่นรื่นรมย์รัก
ตื่นประจักษ์สดชื่นรื่นหรรษา
พรกำนัลวรรณกรรมล้ำโสภา
ประทับค่ากล่อมฝัน..ขวัญกวี

"ฝันดีกันทุกคน...มะสะแปค่ะ"
20 กันยายน 2011

“ด้วยศรัทธาและเชื่อมั่น”



“ด้วยศรัทธาและเชื่อมั่น”


อย่าละทิ้งเส้นทางระหว่างฝัน
แต่ละวันผันเปลี่ยนและเวียนผ่าน
การเดินทางแม้ไกลใช่ยาวนาน
ชัยตระการ..รอคนกล้า..อย่าละวาง


ขอเธอจงเชื่อมั่นวันยืนสู้
รอเพื่อดูความฝันอันสว่าง
อัศจรรย์..รอเราเริ่ม..ประเดิมทาง
รอเราร่างเขียนชีวิตทิศวิไล

ด้วยศรัทธามุ่งมั่นอันแน่วแน่
ยึดแก่นแท้ความจริงคือยิ่งใหญ่
เป็นรากแท้จุดยืนขึ้นกลางใจ
ของเธอไว้ด้วยกล้าและท้าทาย

หากเราเพียงจับมือยึดถือมั่น
องค์ความฝันฤามีสิสลาย
ฉันและเธอ วิญญาณ มิเดียวดาย
ท่ามกลางสายลมพาน่ายินดี

ตราบสิ้นวันสุดท้ายใจเชื่อมั่น
ใต้หุบเขาผาชันมิพรั่นหนี
ซ่อนกระแสสายธารม่านวารี
รอล้างธารนทีที่คลอนัยน์

พจนีย์ที่เยี่ยมเปี่ยมอำนาจ
ซึ่งประกาศภาวนาเป็นกล้าใหม่
โปรดส่งเราสู่หลักพักหทัย
ด้วยฟื้นไวได้แกร่งเต็มแรงเดิน

แม้เมื่อเราดำรงใต้โพรงมืด
อกคงยืดถึงหวังพลังเหิน
ฉายตะวันในใจไม่ล้าเกิน
รู้สึกเพลินอบอุ่นกรุ่นนิรันดร์

หากเราร่วมยึดมั่นด้วยกันอยู่
เราย่อมรู้สิ่งหวังเมื่อตั้งฝัน
ซึ่งมิล่มล้มตาย..ไปอนันต์
จะนานกัลป์เสรีนี้ล่องลอย

เถอะที่รักศรัทธาและเชื่อมั่น
จับมือกันฟันหนามมิคร้ามถอย
อรุณแห่งชัยชนะจะรอคอย
ให้ฉันเธอเกี่ยวก้อยคอยชื่นชม



ยิ้มแก้มแดง
 02 ธันวาคม 2011

๐ อยู่คนเดียว ๐



๐ อยู่คนเดียว ๐


อยู่คนเดียวกับเงาเฝ้าเคียงข้าง
ยกมือนางวางด้วยช่วยกันหลอน
ยื้อขวาเจ้ายื้อด้วยช่วยเขียนกลอน
เอนหลังนอนนอนขำทำด้วยกัน


ยื่นซ้ายหนอคลอซ้ายคล้ายฝาแฝด
เสื้อเราแสดเจ้าดำดูขำขัน
สะบัดมือ..สะบัดตาม..แน่ะ!ทำทัน
เราขวาหัน..พลันเลียนแบบ..แสบเหลือเกิน

เราหันข้างพลางหันนั่นทำเข้า
เพราะมีเจ้าเงาเอยเลยไม่เขิน
มีเพื่อนเหงาเรานายสบายเพลิน
เปลี่ยนมาเดินนั่นไง! รู้ใจเชียว

เราร้องเพลงร้องเหมือน...เพื่อนอ้าปาก
แต่กระดากมีเพียงเสียงแหบเหี่ยว
เจ้าเป็นใบ้ใช้เวรตัวเป็นเกลียว
คอยตามเทียวเกี่ยวร่างร่วมทางเรา

ลูบแป้นพิมพ์จิ้มด้วยช่วยกันนึก
เพลาดึกยิ่งเด่นเห็นแต่เจ้า
มิมีใครใดอื่นยื่นเช่นเงา
ป้องความเหงาเงาเอ๋ยอย่าเอ่ยลา

จบบทกลอนอ่อนล้าลาบทหก
คอแทบตกงกเงิ่นเดินถลา
เราเข้าห้องนอนเหงาเงาไม่มา
ยังทำหน้ามายิ้ม..แบบพิมพ์ใจ



ยิ้มแฉ่งฟันหลอ 
~masapaer~
15 มกราคม 2012

นิยมสูง

อาคันตุกะ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ถูกอกถูกใจกดไลค์กดแชร์นะคะ