หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2565

บัว




🕯️ #บัว 🕯️

💝

ดั่งดวงแก้วบุษบาประภัสสร

กลางสาครนทีที่หลั่งไหล

แง้มกลีบบานม่านฟ้าทาบทาใบ

ชโลมใจชโลมหล้าทั่วธานี

 

บานยืนหนึ่งกลีบใบไหวชูก้าน

เบ่งกลีบบานท้าแดดแผดรัศมี

เปล่งปัญญาหาญกล้าด้วยอารี

ตื่นรู้ที่ตัวตนพ้นอัตตา

 

ลีลาสองกลีบใบไหวเริงรื่น

พร้อมรู้ตื่นด้วยเพียรเปลี่ยนปัญหา

จรุงจิตรู้แจ้งแห่งปัญญา

อรุณฟ้าครารุ่งก็พุ่งบาน

 

พลิ้วดอกสามงามล้ำดำผุดว่าย

กำลังกายใจมั่นหมั่นผสาน

เจิดจรัสงามช้า..ยังตระการ

แลไม่นานเกินรอจะยอยล

 

ระบำบัวสี่เล่าเจ้าบัวน้อย

ประหวั่นคอยนานเกินประเมินผล

เผลอเพลี่ยงท่าปลาเต่าเฝ้าเวียนวน

เกรงจะพ้นหรือไม่ให้พะวง

 

บัวจะงามงามล้ำธรรมชาติ

ให้ดื่นดาษผื่นน้ำตามประสงค์

ด้วยหัตถาปรานีที่วางลง

บัวก็คงบานได้หลายเหล่าบัว

 

#ปกิณกะ🥰

 


☘️บัวก็เลือกเกิดในเหล่าบานสะพรั่งไม่ได้ทุกดอก

คนปลูกประคบประหงมดูแลให้งามรอดพ้นพร้อมบานได้..แม้ในเวลาต่างกันบัวก็มีโอกาสที่จะงาม

.

แม้นจะมีใต้โคลนสักดอกโผล่พ้นไม่ได้..นั่นก็ด้วยชาติกำเนิดที่บัวก็ไม่ได้เลือก...คนปลูกก็สุดเอื้อมดึง..จึงปล่อย..วาง..🍃 



วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2565

"ดอกรักบนยอดงิ้ว"



"ดอกรักบนยอดงิ้ว"



ใครหรืออยากปีนงิ้วชันลิ่วสูง
ด้วยทาสรักชักจูงให้ยุ่งเหยิง
ปล่อยหัวใจตกต่ำระบำเพลิง
เมาระเริงกาเมเล่ห์ความรัก

จิตอันซ่อนอ่อนไหวใต้วงกต
ทางเคี้ยวคดลดหลั่นกั้นสลัก
ดูวุ่นวายวนเวียนอิดเอียนนัก
คราจูงชักดึงเร้าเรื่องคาวใด

พบหน้ากันครั้งแรกก็แปลกอยู่
พิศเสียงดูรู้เห็นเป็นแบบไหน
เพ่งท่าทางอย่างนั้นอันหวามใจ
ตรองนิสัยใคร่หลงดงมายา

กลิ่นกายอันยวนเย้าเร้ารู้สึก
ในสำนึกดึงไว้ใช่แน่นหนา
คือมนุษย์ผุดว่ายใต้เวลา
ของกามาม่านงิ้วพลิ้วรำบาย

ความรักบานม่านตาเลือนพร่าบอด
รักบานยอดปลายงิ้วเป็นทิวสาย
มิรู้หนามแหลมตำทำระคาย
ยลยอดปลายตาพิศหวังปลิดครอง

ป่ายปีนทั้งร่างกายที่ไหวเปลี้ย
หนามไล้เลียทิ่มแทงแหยงสยอง
หวังเชยชิดปลิดดอกออกเรืองรอง
เหมือนรักมีเจ้าของจึ่งหมองตรม

เป็นความบาปหรือผิดที่คิดรัก
ติดกับดักหัวใจไม่เหมาะสม
คงไม่ผิดหรอกรักหากแค่ชม
แต่คงล่ม "เพราะทำ" ย้ำบาปรัก

 

15012011

ปกิณกะภาษากลอน

 

หายเพราะอัพบล็อกใหม่ลงใหม่นะคะ

อ่าน "มาลัยดอกงิ้วริ้วลายดอกรัก" 

ดั่งต้นไม้ใบหนามหนา

ดั่งต้นไม้ใบหนามหนา






จะอิจฉากันถึงไหนใจมนุษย์

จึงหมายฉุดกันเองให้ล้มคว่ำ

เพียงเพื่ออยากบินสูงกว่าเป็นผู้นำ

เลยเหยียบย่ำใครใครให้ต่ำลง

 

ดั่งเป็นต้นไม้ใบหนามหนา

ย่อมไร้ค่าแก่กาหงส์

หนามแหลม-ดก-นกบินตรง

ไม่เกาะลงหนามไหญ่ให้ระคาย

 

เฉกเช่นคนเป็นหัวหน้า

อวดฤทธาบ้าอำนาจด้วยมาดหมาย

ดัชนีชี้สั่งช่างอันตราย

คนย่อมกลายผ่านไปไม่ศรัทธา

 

ปกิณกะภาษากลอน

 



วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565

เพราะครูขี้ขลาด

 

โบว์ขาวเจ้าเด็กดื้อ


จากข่าวและลองทบทวนจากส่วนลึก ของคนหนึ่งซึ่งอยู่ในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง

ว่าจริงๆแล้ว  เรากล้ามากพอเท่าเด็กหนึ่งคนในยุคนี้แค่ไหน หรือความจริงแล้ว เราเอาความปรารถนาของเราไปใส่ในความคิดเด็กให้เขาเป็นแบบนั้น

ข่าวอะไรไปสืบเองเด้อ

บทกลอนนี้ก็คิดไปไม่ใช่เรื่องของใครสักคนดอก เป็นแนวคิดตามประสา  โปรดอย่าไปโยงใครให้มาต่อยตีกับคนเขียน เข้าใจบ่ ตีต่อยใครไม่เป็น

ถ้ากล้าเข้ามา สู้เด้อ เอาปากกาจิ้มตาเลยหนา ^.^!

 


เพราะครูขี้ขลาด

จึงกระหน่ำไม้ฟาดสาดเนื้อเจ้า

เหตุมิควรสังคมว่าเจ้ามัวเมา

หลงความเขลาเจ้ากล้าท้าสภา

 

เจ้าถูกปล้นความฝัน

ครูก็เคยถูกบั่นการศึกษา

แต่หากหัวหดบดวาจา

มิหาญกล้าเท่าเทียมจึงเจียมใจ

 

แม้นอหังการ์หัวใจมันใหญ่ล้น

ทว่าครูคนขี้ขลาดบังอาจไม่

สอนลูกศิษย์กล้าหาญชาญชัย

แล้วผลักเจ้าออกไปหน้าชายแดน

 

โบว์สีขาวเจ้าขาวบริสุทธิ์

เปรียบประดุจนำ้ค้างหลั่งเกินแสน

อาจจะเพื่อล้างหน้าคนบ้าแทน

ผู้ใหญ่อันแร้นแค้นแก่นนักรบ

 

ครูหม่นคนโลกเก่า

หลบมุมเสาดูห่างอย่างสงบ

ดูปากกาผูกโบว์ขาวคราวออกรบ

ช่างดูห่างต่างภพแสนไกลเกิน

 

เพราะครูมันขี้ขลาด

จึงพลาดทวงธรรมอันขาดเขิน

สอนลูกศิษย์กล้าฝ่าฟันดั้นเผชิญ

แต่ครูเดินไม่ถึงซึ่งศรัทธา

 

 

ทั้งรักทั้งห่วงและแอบชื่นชมปนสงสัย..

 

ปกิณกะภาษากลอน

 


ศักดิ์ศรีครูไม่ได้อยู่ในชุดที่ใส่ มิใช่ปกงานที่ไฉไล แต่หากคือหัวใจของครูเอง

 


 ศักดิ์ศรีครูไม่ได้อยู่ในชุดที่ใส่ มิใช่ปกงานที่ไฉไล แต่หากคือหัวใจของครูเอง

 

🎖วัดค่ากันที่ผล..จากทางเริ่มต้นที่หลากหลาย

เส้นทางมีมากมาย

แต่สุดท้ายก็ถึง..จึงเชิดชู

 

อย่าบังคับใครกราบไหว้

ก็ด้วยหัวใจต่างมีอยู่

หากความดีมีไว้ในตัวครู

ใครเขารู้ศรัทธา..ก็มาไหว้เอง

 

อย่าประนามหมิ่นใคร..

มันอาจคือจิตใจสะท้อน..ความอวดเบ่ง

ครูคือคน..คนเป็นครู..แค่นั้นเอง

อาจเปล่งแสงรัศมี..สีต่างกัน

 

อย่าให้ใครมาหยามเกียรติ

เพราะวาจาเบียดเสียดเหยียดความฝัน

หรือสบถด่าหยาบคนอื่นพัลวัน

เพียงเพราะชุดที่ใส่นั้น..มันดูดี

 

เกียรติมีไว้แต่ใจเสื่อม

ดังน้ำกระเพื่อมแผ่รัศมี

อยากแผ่ซ่านเป็นธารไหลในความดี

หรือแผ่ความอัปรีย์นี้จงครวญ

 

แม้นตามองไปข้างหน้า

อย่าลืมมีสายตาที่ย้อนหวน

มองปลายเท้าเราบ้างอย่างทบทวน

ทุกกระบวนที่ก้าว..อย่างเข้าใจ

 

แด่คนที่มีจิตวิญญาณความเป็นครู

จงเชิดชูความดี..มิใช่หัวโขนที่ตนใส่

หากคิดว่าเป็นครูแล้ว..ต้องอยู่เหนือหัวใคร

จงคิดใหม่..อยู่ในใจคนให้ได้นั้นควรทำกว่า..นะคนดี

 

🖊ไม่กำหนดคำในแต่ละวรรค ไม่มีกฏเกณฑ์สัมผัสในนอกตายตัว

แต่ผู้เขียนถนัดชำนาญกลอนสุภาพมากจนบางครั้ง เวลาเขียนการกำหนดคำมันจะอัตโนมัติ

มักลงได้วรรคสั้นๆ และลงท้ายด้วยสัมผัสนอกต่อบทเรื่อยไป..

 

ก็คนนี่นะ..อารมณ์ก็มีกันทุกคน

คนเขียนก็ด้วย..โปรดขออภัยล่วงหน้าถ้ามันแรงขึ้นในอนาคตค่า😎

 

ปกิณกะภาษากลอน😎

📖กลอนเปล่าหรือกลอนกระดาษ

 

 


นิยมสูง

อาคันตุกะ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ถูกอกถูกใจกดไลค์กดแชร์นะคะ