หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556

" เรือชีวิต "




" เรือชีวิต "

มนุษย์หนอดั้นด้นเทียวค้นนัก
ความอยากชักรากเศร้าเหตุเขลาหาม
ขาดจำกัดขัดใจในนิยาม
จึงหมองตามกิเลสเหตุล่อลวง


ยึดติดมั่นตัวตนขนเอาทุกข์
เหตุด้วยไฟโรมรุกบุกดั่งบ่วง
ยอมทนร้อนกร่อนจิตทุกทิศปวง
เพื่อตักตวงบ่วงกรรมเอาตามใจ

เมื่อกิเลสเหตุหมองร้องยวนยั่ว
มนุษย์กลั้วสุขล้นขนเข้าใส่
ด้วยหลงกลิ่นรูปยศกำหนดไป
ลืมแก่นแท้เหตุใหญ่ใคร่พิศดู

เมื่อคนเรามีตาต่างดวงแก้ว
ของตัวใครต่างแนวที่แพรวอยู่
จะมองค่าของมัน...นั่นของกู
หรือพิศรู้ดูตนค้นความจริง

เมื่อร่างกายคือเรือเพื่อส่งจิต
ควรพินิจสิ่งล้วนให้ถ้วนยิ่ง
ตรองกระพี้ชีวิตสะกิดติง
ให้ประวิงยิ่งแก่นที่แน่นแล้ว

เอาพระธรรมนำใจให้เดินทาง
เร่งสะสางทางให้ใสดั่งแก้ว
นั่งเรือมนุษย์รุดหน้าฝ่าตามแนว
ให้ถึงแถวของฝั่งอย่างงดงาม

masapaer
27/07/2010


วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556

"จดหมายหรือเธอที่..เปลี่ยนไป"




"จดหมายหรือเธอที่..เปลี่ยนไป"

หยิบปากกาด้ามเก่งบรรเลงพจน์
ขึ้นต้นบทจดหมายใจเต้นถี่
ถึงปลายทางร่างคำพร่ำวจี
เผยฤดีที่เป็นเน้นลงไป


ทุกบทความยามร่างพลางยิ้มสรวล
หวานรัญจวนครวญถึงรำพึงใกล้
จะกี่วันถึงมือสื่อถึงใจ
รอคอยได้พร้อมฝันอันหวามทรวง

รอเวลาตอบกลับนับจดหมาย
จะส่งสายผูกพันปันความห่วง
หลากรู้สึกคละรุมสุมก่อรวง
ของทุกห้วงแห่งใจในคนรอ

เสียงเรียกไวไปรษณีย์มีจดหมาย
ใจตื่นคลายคล้ายชื่นระรื่นหนอ
เพียงได้รับจดหมายใจอิ่มพอ
หวังเพียงขอตอบความย้ำกลับมา

เปิดจดหมายไม้หอมพะยอมแห้ง
ประดิษฐ์แต่งร่วงพรูดูมากค่า
เป็นของฝากจากใจให้กานดา
ลงท้ายว่า “รักคิดถึง” ตรึงไม่เลือน

ตอบเธอกลับที่รัก..ฝากส่งไว้
ดาวน้อยพับส่งไปให้เป็นเพื่อน
จูบส่งท้าย..ลิปสีอ่อน..ซ้อนหวานเตือน
อย่าแชเชือนเลื่อนตอบมอบข้อความ

ปิดผนึกพร้อมจูบลูบอีกครั้ง
กับความหวังความฝันอันหวาบหวาม
จูบกระดาษแทนกายในทุกยาม
รอวันข้ามผ่านให้ได้พบกัน

ผ่านคืนวันรอคอยแทบถอยร่น
กระดาษหม่นหมองยับกลับพลิกผัน
สิ้นจารึกหมึกจางร้างแรมวัน
เธอลืมมันผันไปใช้อีเมล์ (E-mail)

คำฝากรักหักผันปานจรวด
ความเจ็บปวดของใจใครหักเห
พิมพ์ครั้งเดียวส่งสิบหยิบแจกเท
สุดคะเนหัวใจในเมล์เธอ


ปล........ไปหล่ะ  

13 มกราคม 2011




''..เมล์ละเมอ หรือเธอ ไม่สนใจ..''

...รับจดหมาย สีหวาน น้ำตาลอ่อน
ซองสะท้อน แวววาว พราวเสมอ
ไปรษณีย์ ยื่นให้ ยามได้เจอ
เหมือนละเมอ เพ้อฝัน นั้นปะไร

...รีบพินิจ จิตจ้อง มองอักษร
ที่อยู่ก่อน เปิดผนึก รู้สึกไหว
สั่นสะท้าน ปานเต้น เน้นที่ใจ
ระบุไว้ ชื่อเรา ยิ่งเร้าทรวง

...กลิ่นหอมหอม ล้อมกรอบ รอบซองสึก
เปิดผนึก เห็นดาว ราวดอกสรวง
ล้วนบรรจง พับทบ ประกบพวง
แต่ละดวง เด่นล้ำ ฉ่ำชื่นมาน

...ค่อยค่อยคลี่ กระดาษ หยาดคำรัก
แต่ละวรรค สลักซึ้ง ตรึงคำหวาน
พลอยกำซาบ ภาพเจ้า เยาวมาลย์
คิดถึงวาน ปานวาตย์ แทบขาดรอน

...ยิ่งรอยลิป สีอ่อน ขจรกลิ่น
หอมระริน แก้มพวง ห่วงสมร
พี่ประทับ จูบซ้ำ นะงามงอน
ด้วยอาวรณ์ ก้อนเสน่ห์ คะเนคะนึง

...เหลือจะข่ม ใจขับ หลับคืนค่อน
หวั่นบังอร รอนาน จะค้านขึง
จงส่งพิณ  บีบี  ที่ ดาวน์-ดึง (ดาวน์แล้วผ่อน)
หวังช่วยตรึง สัญญาณใจ ให้ตรงกัน

...จะได้แชท แอตออน ทุกตอนค่ำ
ป้อนถ้อยคำ พร่ำหา อุราสันต์
พิมพ์ข้อความ ตามด้วย รูปสวยพลัน
ส่งเป็นขวัญ  เป็นพร ก่อนนิทรา

...แต่แล้วไย แจ่มจันทร์  ไม่หมั่นตอบ
หรือมิชอบ บีบี ที่ส่งหา
ปล่อยให้พี่ กดแป้น จนแขนชา
แม้แต่เมล์ สักครา ยังไม่มี....

...ต้องให้รอ จดหมาย จนตายหรือ
ถึงจะสื่อ สานถ้อย คอยยาหยี
ถึงตอนนั้น คงแย่ แก่เต็มที
ลมที่มี คงม้วย ด้วยรอนาน...


ปล. มิใช่นานธรรมดาน่ะ ...น๊านนน..นานนนน.....เลยเชียวแหล่ะ...อิอิ

***เมฆา...***
13 มกราคม 2011


''.จูบออนไลน์.''

แม้จดหมึกนึกนานพลันช้าหน่อย
จนคนคอย..ชราหนัก..รักยังหวาน
อยู่ที่พี่ชายแล้วแก้วดวงมาน
สลักกานท์หวานชมหรือลมลวง   

ทุกวันต้องลากทุยลุยหนองน้ำ
ก่อนพลบค่ำยามแรงแสงวันล่วง
รอกระดาษบรรยายรักในทรวง
ที่รำพันทุกห้วงของดวงใจ   

ชะเง้อแง้แลหาเหมือนบ้าบิ่น
สาวบ้านถิ่นอรัญมิทันสมัย
จรุงแต่งแต้มศรีขาดวิไล
อยู่ห่างไกลปืนเที่ยงเสี่ยงรักลา   

ลงทุนซื้อบีบีด้วยชีวิต
ทุยอุทิศเพื่อฝันอันอุตส่าห์
รับข้อความพี่ชายในท้องนา
อนิจจาเล็กไปไม่สำราญ   

ขายข้าวได้รอบนี้มีโน๊ตบุ๊ค
เล่นแทบจุกแต่รักหวังปักฐาน
เกรงพี่ชายหายต้องจองขึ้นคาน
ดอกเบี้ยบานก็ดาวน์เอามาดึง  (เหมือนกัน)    

แถมไม่ลืมแอร์การ์ดฉลาดไหม
จะเชื่อมใจในเอ็มเข้มข้นถึง
ผ่านแคมฟอกซ์บอกรักปักตราตรึง
ฝากคะนึงก่อนนอนแชทออนไลน์  

อยากส่งจูบจุ๊บจุ๊บมิผลุบผัน
เหมือนจดหมายมอบกันนั่นไฉน
พี่ส่งลิ้งค์แลกจูบจุ๊บจุ๊บไว
น้องจูบใส่หน้าจอ..หนอไฟช๊อต !  อิอิ    


ปล.บางทีกระดาษเก่าๆ ก็เจ๋งกว่านะเพ่. 

14 มกราคม 2011


จูบออนไลน์ กลายเป็นอื่น ”

...ไปรษณีย์ พี่เอ๋ย ไยเลยผ่าน
หนุ่มไกลบ้าน รอข่าว จากสาวฮอท
หลายเดือนแล้ว แนวลาง ห่างคอมพ์ด็อด
เวอร์วายเว็บ คิดฮอด พลอยจอดจาง

...เช็กอีเมลล์  ก็หาย โหดร้ายนัก
จดหมายรัก หรือก็คอย เหมือนรอยร้าง
กลิ่นสุคนธ์ ปนแก้ม แซมผมนาง
ก็เลือนลาง ล่องลอย เกินคอยรอ

...น้ำตาไหล ใจกลุ้ม มะรุมฤทธิ์
คะนึงนิจ  พิศขวัญ  แจ่มจันทร์หนอ
เปิดแคมฟอกซ์ ช็อกผวา น้ำตาคลอ
เห็นชื่อย่อ สาวอรัญ มันปวดใจ

...คงลืมแล้ว แก้วจ๋า นางฟ้าพี่
เข้าออนไลน์ แต่ละที มีหนุ่มใหม่
มาป้อยอ ขอแอต แชทเมนต์ไป
แล้วคนไกล ในกรุงเล่า เจ้าทำเมิน

...ปล่อยให้เรา เฝ้ารอ ต่อคอมเมนต์
ทีคนอื่น ทำเป็น เห็นเคอะเขิน
รู้ไหมหนา ว่าเหน็บ เจ็บเหลือเกิน
แหมคงเพลิน ทิ้งเรา เหงาคนเดียว

...แม้แต่ใน เฟสบุ๊ค ก็ทุกข์เหมือน
รับเป็นเพื่อน  เชือนแช ไม่แลเหลียว
เห็นว่าเรา ภูธร ก็ถอนเทียว
แสนจะเปลี่ยว ขมขื่น สะอื้นทรวง

...ก็แค่เพียง อยากถาม ยามห่างหาย
จึงต้องร่าง จดหมาย  ว่าชายหวง
ด้วยน้ำคำ พร่ำบอก ใช่หลอกลวง
เพื่อประท้วง ท้วงติง หญิงอรัญ

...แล้วใส่ซอง สีสาย ลวดลายสวย
ผนึกด้วย แสตมป์ตรา อากรขวัญ
พร้อมรอยจูบ ลูบไล้ ใจรำพัน
และน้ำตา หยดนั้น อันระทม

...หวังข้อความ จากทรวง ที่ห่วงหา
ถึงกานดา เพ็ญพักตร์ คนรักผม
หันมาจาร กานท์พจน์  งดแชทชม
หวั่นหลงลม คมลิ้น อินเตอร์เน็ท......


ปล. แม้แต่คำลงท้าย ใจร้ายนัก...(ไฟช๊อต)  



***เมฆา...***


"รักละเมอ หรือเธอตาลาย "

ต้องลงทุนขายทุยลุยไซเบอร์
เพราะเผยอฝากใจไม่เคยเข็ด
ต้องอดนอนออนไลน์ให้คอเคล็ด
แต่น้ำตาต้องเล็ดเช็ดทั้งคืน

จะให้รอจดหมายกลัวตายก่อน
เพราะว่านานครึ่งค่อนจะร่อนยื่น
กว่าจะส่งคงตรมล้มทั้งยืน
กลัวพี่ชื่นกับใครไม่รอกัน

ตอบอีเมล์กลับไปหลายครั้งแล้ว
ยังไร้แววตอบมาพาเสียขวัญ
พี่ออนเอ็มคงบล็อคล็อคทุกวัน
ต้องนอนฝันร้ายมากอยากบอกจัง

รับข้อความออนไลน์หัวใจเต้น
อยากจะเม้นท์กลับไวไม่เหลียวหลัง
แต่นามสื่อถึงใครใจแทบพัง
มิใช่นามน้องยังทำรังแก

ตอบข้อความก็ช้าว่างานสุม
หรือสาวรุมออนเอ็มแทะเล็มแน่
เห็นไอคอนออนไลน์ใจอ่อนแอ
สายบัวแพ้สายสวาทแทบขาดใจ

สาวบ้านถิ่นอรัญคงฝันค้าง
เครือข่ายกว้างยิ่งเร็วลงเหวใหญ่
พี่บอกลาเฟชบุ๊คซุกไฮไฟว์
ชมสาวใสงามทรงรูปลงบล็อก !   

มะแป
14 มกราคม 2011



พอเปิดคอมออนเอ็มเต็มจอแล้ว
เห็นกลอนของน้องแก้วมาแนวน็อค
คำสุดท้ายร่ายรางคงพรางบอก
หวังเสยพล๊อกปลายคางทำอย่างเซียน

โอ้สาวถิ่นอรัญขยันนัก
อยากจะรักอยากจะหลงคงโดนเฆี่ยน
ขายเจ้าทุยลุยบาง(กอก)ลืมทางเกวียน
เข้าแวะเวียนเวบไซ้ส์ลืมไร่นา

ร่อนอีเมล์มากมายหวังขายรัก
ใครสมัครแอด,เม้นท์อยากเห็นหน้า
เอารูปใครมาหลอกรีบบอกมา
ล้วนหน้าตาสวยจังชั่งไม่อาย

พี่ก็หลงงงงวยป่วยใจแป้ว
หลงรักเธอเข้าแล้วแนวใจง่าย
อยากจะเป็นแฟนคลับมากลับกลาย
เธอมีรักมากมายคงคลายคลอน

เห็นลีลาร่ายกลอนอักษรสาร
หลั่งคำหวานหว่านล้อมกล่อมฉะอ้อน
ทั้งร่ายรำเริงร่าท้าต่อกลอน
ดั่งจารจรจากใจให้มาลุย

เฝ้าติดตามจดหมายที่ปลายฝัน
ทุกคืนวันรอรับคงยับยุ่ย
รอเธออยู่หน้าจอพอได้คุย
ต้องหน้ามุ่ยไม่มาน่าน้อยใจ

รับจดหมายประจำตอกย้ำว่า
ต้องรีบส่งเงินมาอย่าช้าได้
ถ้าไม่ส่งจะรู้เป็นยังไง
แม้แต่ไข่ไม่มีให้ลูกกิน

ณ วันนี้ไม่มีจดหมายแล้ว
ฟังเสียงแว่วโทรศัพท์รับแทบดิ้น
เธอ miss call อ้อนมาเป็นอาจิณ
จนเคยชินหูชา...ไม่มาแล้ว!!

  

“ปรางค์  สามยอด”


มาวันนี้จดหมายไม่มีหรอก
พี่มาบอกหวั่นไหวใจมันแป้ว
คง miss call ต่อใจไปตามแนว
ลืมน้องแก้วบ้านไพรไปกระมัง  

มาทักล้วงลีลาน่าหลงรัก
ไม่เห็นทักสักหนคนแทบคลั่ง
ออนเอ็มแอ็ดแชทเมนท์เล่นคนดัง
ทิ้งบัวสายไว้หลังช่างปะไร  

รักออนไลน์ไซเบอร์เห่อกันเข้า
แม้แต่เราขายทุยหวังคุยใกล้
ดึงสัญญาณชุลมุนวุ่นเป็นไฟ
ยังมิทันสาวใสที่ในกรุง  

เอ็มอยู่บนหลังทุยอยากคุยด้วย
ฝันคงม้วยด้วยแฟนพี่แน่นถุง
พี่หว่านคำยำใหญ่ใส่เล่ห์ปรุง
สาวเนื้อทองน้องนุ่งมุงคุยตรึม!  

   
มะแป
15 มกราคม 2011


ขอบคุณเมฆา และลุงปรางค์มากค่ะ 



วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

"มุมกาแฟ มุมวิเวก"


"มุมกาแฟ มุมวิเวก"


โต๊ะตัวเล็กสีขาวพราวพิสุทธิ์
ดูเข้าชุดที่นั่งข้างหน้าต่าง
ม่านรับลมพรมพลิ้วผิวแผ่วบาง
หลบมุมอย่างโดดเดี่ยวเลี้ยวด้านใน

มุมสงบกลางร้านอันครึกครื้น
ขอตั้งหลักพักฟื้นก่อนยืนใหม่
จิบกาแฟถ้วยโปรดรสพอใจ
อย่างละไมอารมณ์พรมอุรา

กาแฟกรุ่นอุ่นร้อนซ่อนความคิด
ยากจะปิดทิ้งร้างทางก้าวหน้า
คือต่อสู้ดินรนขนเงินตรา
หรือตัณหามนุษย์ต่างรุดทำ

เพื่ออะไรกันแน่แง่ชีวิต
จึงลิขิตทิศเดินเพลินถลำ
แสวงเพื่อสิ่งใดใครเล่านำ
จึงยอมสิ้นจองจำคำว่างาน

มีแก่งแย่งขัดขวางช่างน่าขัน
มีเย้ยหยันหยามเหยียดเบียดต่อต้าน
มีทำลายฉ้อฉลด้วยกลพาล
ยืนตระหง่านบนเกียรติเบียดอีกคน

จิบกาแฟเบาขมรสกลมกล่อม
เอาล้างย้อมความล้าระอาหม่น
ยังต้องก้าวกลับสานงานวังวน
พบกับกลเหลี่ยมเล่ห์เพทุบาย

เถอะหนึ่งช่วงล่วงเวลาเข้ามาผ่อน
จิบกาแฟอุ่นอ่อนซ่อนใจหาย
ผ่อนอารมณ์ข่มเครียดเบียดใจกาย
กลิ่นกาแฟพลิ้วคลายให้อารมณ์

สิ้นกาแฟเลิศรสหยดสุดท้าย
คือสัญญาณท้าทายในโลกขม
หากสำลักชักชืดพะอืดอม
กาแฟพรมกลิ่นหอมพร้อมล้างใจ



ในโลกจริง สิ่งเผชิญ เกินจะรับ
กร้านชากับ ใจคน สับสนเหลือ
ต่างแก่งแย่ง แข่งขัน กันเพียงเพื่อ
ได้อยู่เหนือ คนอื่น มันชื่นใจ

คอยปัดแข้ง ปัดขา ให้ล้าแรง
เพียงเพื่อแย่ง ความชอบ มาหอบไว้
โยนความผิด กระจาย ตายช่างใคร
ไม่ใส่ใจ ไม่สน ดีคนเดียว

งานคือเงิน เกินลา หนีหน้าหาย
แม้ใจตาย ด้านชา ล้าเปล่าเปลี่ยว
อยากหลุดพ้น จนห่าง ทางน้ำเชี่ยว
ไปเก็บเกี่ยว ฝันไกล ตามใจตน

หย่อนกายพัก สักครา ยามล้าอ่อน
กาแฟร้อน เติมพลัง หลังสับสน
มุมสงบ หลบลี้ หนีผู้คน
คงมีหน ทางสู้ อยู่ต่อไป


กาแฟดำ


กับมุมโปรดรสเดิมเพิ่มความเข้ม
พักกลเกมชีวิตพิศตรองใหม่
ลิ้มกาแฟหอมกรุ่นอุ่นละไม
รดรินลงย้อมใจให้ผ่อนคลาย

ระบบใดในระบอบรอบทุกทิศ
เหมือนแฝงในจริตที่ผิดหมาย
กำหนดเขตขอบกั้นอันมากมาย
ยังมีกลายเขตล้ำเกินงามตา

เหนื่อยที่กายคลายลงตรงได้พัก
เหนื่อยใจนักพักร้อนยากถอนกว่า
อยากมองเห็นทุกนามธรรมดา
แต่สิ่งเร้าลากพาผวาตาม   

เฮ้อ....เซ็งเป็ด เฮ้อ! ช่างเถอะค่ะอย่าดีก่า....  )


มากกว่าดื่มกาแฟแท้คือพัก
คนขายคงน่ารักเลยอยากถาม
ขอพื้นที่ร้านไว้ให้บ่นความ
พรรณนาบ้าพล่ามยามระอา

คงมิกวนหัวใจเกินไปนัก
คนอกหัก..งาน-ใจ..อาจคล้ายบ้า
กาแฟจิบสุดท้ายได้เวลา
เชิญท่านมาเก็บตังค์..พลางขอจร  ยิ้มกวนตีน


แซวกันวันเบา ๆ จ้า!



19 มีนาคม 2011



เพียงคงใจ ให้มั่น แม้หวั่นไหว
บางครั้งให้ ร้าวลึก นึกอยากถอน
เข้าทำงาน ปานฝ่า เพลิงนาคร
มันร้าวรอน แรงรุม สุมทุกข์ทน

ปีกเสรี ยังบาง เกินกางโต้
ต้านลมโผ ผกผิน ถิ่นเวหน
รอวันแกร่ง เติบกล้า ท้าผจญ
จะรุกค้น สืบไป ตามใจบิน

(ไปไหนแล้วเนี่ย..กลับร้านดีกว่า อิ อิ)


นั่งมุมโปรด ปล่อยวาง ใจว่างเปล่า
ทิ้งเรื่องเศร้า เหงาล้า อย่าถวิล
จิบกาแฟ หอมกรุ่น อุ่นดวงจินต์
สดับยิน เพลงไพร กอไผ่ครวญ

ชอบมุมไหน จองได้ ไม่สับสน
ขอเชิญวน เวียนมา พากลอนหวน
มอบไมตรี โต๊ะนี้ ไม่มีกวน
อย่าเพิ่งด่วน จ่ายตังค์ ยังอาวรณ์


กาแฟดำ


เหมือนมีมนตร์ดลใจให้หันหลัง
กลับมานั่งพักใจคลายล้าอ่อน
ถอดใจวางงานลงปลงอาทร
สิ่งทุกข์ร้อนใดใดไว้ลองดู

มุมประจำที่เดิมแต่เริ่มแรก
ขอเป็นแขกประจำยามหดหู่
จิบกาแฟรสนิ่มครีมฟองฟู
ไม่ต้องหรูบริการขั้นพิธี

คนขวักไขว่เต็มร้านอันอบอุ่น
ความหอมกรุ่นกาแฟแท้คือที่ –
คนดูแลกระมังท่าทางดี
มากไมตรีละมุนคนคุ้นชิน

ความเป็นไปในโลกโยกเปลี่ยนผัน
คือทุกวันเราล้วนป่วนทั้งสิ้น
จับอารมณ์ไม่ทันหันจมดิน
ใจก็ดิ้นด้วยร้าวบางคราวเป็น

ขอนั่งทอดอารมณ์ชมไม้เขียว
ไผ่ใบเรียวในซุ้มมุมมองเห็น
รับไอน้ำจัดสวนอวลความเย็น
คอยกระเซ็นแผ่วอ่อนอย่างผ่อนคลาย

เชิญดูแลแขกอื่นที่ดื่นร้าน
เมื่อเบางานค่อยรับกับสหาย
เพียงแห่งนี้เติมใจได้มากมาย
พอสบายใจปลื้มก็ลืมเอง.. 


 เขียนได้ดีออกค่ะ...

20 มีนาคม 2011


~ ขอบคุณคุณกาแฟดำค่ะ~




นิยมสูง

อาคันตุกะ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ถูกอกถูกใจกดไลค์กดแชร์นะคะ