หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

" กุหลาบรำพัน "



" กุหลาบรำพัน "

หอมเจ้าเอยเปรยคำรำพันหอม
แก้วพะยอมกล่อมใจไล่ความเหงา
โชยกลิ่นร่ำรำพันอันบางเบา
อบอวลเร้าตราตรึงซึ้งคารม

โปรยเจ้าโปรยโรยรินกลิ่นธรรมศาสตร์
อันพิลาสพิสมัยได้เหมาะสม
กลิ่นแก้วแผ่วลมหวนชวนนิยม
กลับลอยลมจมหายไปแห่งใด

กุหลาบร่ำรำพันฝันหาแก้ว
อันเพริศแพรวคำปราชญ์ฉลาดให้
หายากแล้วแก้วรินสินธุ์แห่งใจ
พจน์พิไลไขขานที่สานธรรม

พบแต่พจน์จ้วงจาบที่หยาบล้อ
แนวหลอกล่อต่อเถียงเสียงน่าขำ
ส่งกลิ่นหวนป่วนเน่าเคล้าน้ำคลำ
กุหลาบช้ำคำลวงที่พ่วงมา

รอเวลากลีบโปรยโรยราร่วง
อาลัยพวงแก้วรินกลิ่นจัดจ้า
เผยกระจายกลิ่นหอมพร้อมวิชชา
สื่อมรรคามาไขให้แจงตน

ก่อนกุหลาบอาบหมองต้องบอบช้ำ
ฝากรำพันดั้นไปในแห่งหน
บอกกลิ่นแก้วมิจางร้างกมล
ยังลอยวนคำนึงตรึงตรานาน

3/10/2010

จากใจด้านปั้นปึ่งของหนึ่งดวง ที่ทะลวงรู้สึกนึกถึงเธอ



" จากใจด้านปั้นปึ่งของหนึ่งดวง  ที่ทะลวงรู้สึกนึกถึงเธอ"

มิถามเธอคิดถึงซึ้งใครอยู่
ไม่อยากรู้คิดถึงซึ้งฉันไหม
รู้แค่ฉันคิดถึงซึ้งคือใคร
อยู่มิใกล้,ไกลดอก..ขอบอกเธอ


อาจจะเป็นความสุขหรือทุกข์ปร่า
ภาพแววตาอ่อนหวานทำฉันเผลอ
ปรารถนาเพียงพบประสบเจอ
แบบเฝ้าเพ้อรำพันนั้นเรื่อยมา


ฉันไม่มีเหตุผลของคนห่าง
ไม่มีแม้ข้ออ้างจะต่างหน้า
ไม่อยากโทษระยะห่าง,ทางเวลา
ที่นำพาเราไกลไปจากกัน

อยากขอบคุณเส้นทางที่ห่างออก
ขอบคุณตรอกความช้ำขย้ำฝัน
ขอบคุณนะเวลาคราเปลี่ยนวัน
ที่ทำฉันคิดถึงแบบซึ้งทรวง

ทำให้ฉันรู้ค่าความคิดถึง
ที่รำพึงถึงใจได้เป็นห่วง
จากใจด้านปั้นปึ่งของหนึ่งดวง
ที่ทะลวงรู้สึกนึกถึงเธอ..

..จังเลย

23/11/2010

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

แรกพบ




"แรกพบ"

ครั้นแรกพบสบตาก็บ้าฝัน
ครั้นผ่านวันก็เพ้อละเมอหา
เร่งคืนวันผ่านพ้นย่นเวลา
รอเธอมาบรรจบพบอีกที

ครั้นแรกเห็นเป็นสั่นสะท้านไหว
แรกสบตาคราใดใจเต้นถี่
ไร้จังหวะระรัวมั่วสิ้นดี
ใจอย่างนี้เจ้ากรรมชอบทำตัว

แรกรู้จักทักทายก็อายม้วน
รักเชิญชวนยวนหยอกเหมือนหลอกยั่ว
เหมือนภวังค์บังนัยน์ให้พันพัว
ระริกรัวหัวใจไยอ่อนแอ

แรกยินเสียงเพียงนิดจริตป่วน
แทรกรัญจวนยวนใจในกระแส
จินต์เตลิดเชิดไกลไปลับแล
ตามดวงแดไม่ทันฉันแทบตาย

เมื่อแรกรักทักให้ใจก็ชื้น
ลืมตาตื่นฟื้นฝันพลันใจหาย
เขาแค่ผ่านหว่านยิ้มอันพริ้มพราย
เพียงทักทายเพื่อนบ้านเท่านั้นเอง..        จ๋อยจนเหงื่อตก  

30/11/ 2010

“ ขนม เรากับความลำบากของพ่อ “



“ ขนม เรากับความลำบากของพ่อ “


มือหยาบกร้านค่อยแงะแกะขนม
เจ้าหนูน้อยตาคมก้มดูจ้อ
ลุ้นมือแกร่งแรงงัดจัดใจรอ
เดี๋ยวมือพ่อทำให้จะได้กิน
ห่อขนมอร่อยค่อยเปิดออก
พ่อเรียกบอกมาใกล้ให้ดมกลิ่น
“หอมใช่ไหม” พ่อยิ้มอิ่มในจินต์
รอขนมถูกลิ้นกลิ่นยั่วยวน

ขนมหวานซ่านใจอยู่ในปาก
อร่อยหลากรอยยิ้มพิมพ์ใจหวน
คราเมื่อเล็กเด็กน้อยคอยร้องรวน
โยเยกวนอ้อนขอพ่อทุกที

 คนชาวไร่อดอยากแสนยากแค้น
จะเอาแก่นอะไรในวิถี
แค่ที่หลับกับปลาหาพอมี
กับกายาหม่นศรีที่พ่อเป็น

มือหยาบกร้านระแหงแข้งขาล้า
แม้แววตาไม่รู้หนูไม่เห็น
พ่องานหนักตากฟ้าเหงื่อกระเซ็น
แต่รักเอ็นดูลูกทุกข์ก็ทน

ไม่เคยเห็นพ่อลิ้มชิมขนม
หรือพ่อตรมขมใจให้หมองหม่น
ตาพ่อเศร้าเคล้าทุกข์คลุกระคน
เพราะดิ้นรนหม่นใจไม่อาจเดา

เมื่อลูกของอแงแม้ลำบาก
แต่เจ้าปากน้อยเอยไม่เคยเหงา
ยังได้อิ่มลิ้มขนมสมใจเรา
แล้วพ่อเล่ากินตอนไหนไม่รู้เลย
 
3/12/2010

รัก คิดถึง ห่วงใย


" รัก คิดถึง ห่วงใย "

จะให้กล่าวอย่างไรไขได้หมด
กานท์ประพจน์ใดเอื้อนเลื่อนผสาน
จะสื่อถึงรู้สึกตรึกในมาน
ว่าเหตุการณ์เปลี่ยนแปลกแยกฉันเธอ


ได้แต่นั่งนอนนึกระลึกถึง
ใจรำพึงเงียบงันกลัวฝันเก้อ
ระยะทางขวางไว้ไม่อาจเจอ
ก็ยังหวังเสมอเธอกลับมา

รู้เพียงเสี้ยวต่างถิ่นดิ้นฮึดสู้
ไม่อาจรู้ใดมากยากเกินกว่า
เพื่อบางอย่างต่างรนขนเงินตรา
แบกกายาเพื่อใครใจรู้ดี

วัฏจักรมนุษย์สุดเวียนว่าย
ต่างขนขวายต่อสู้กู้ศักดิ์ศรี
สิ่งประทะคละเคล้าเร้าชีวี
ใจจะหม่นป่นปี้นี้เท่าใด

สำหรับใครบางคนผู้ด้นดั้น
ต่างฟ้ากั้นนั้นทุกข์สุขแค่ไหน
สิ่งที่ฉันมอบส่งคงแรงใจ
ฝากผ่านฟ้ารุ้งไกลส่งให้กัน

ดาวดวงน้อยนำพรร่อนมาฝาก
คิดถึงมากห่วงใยแม้ในฝัน
รัก คิดถึง ห่วงใย ไปทุกวัน
ขอผ่าฟันพ้นได้ในบัดดล

3/ 12/2010




ใครบางคนงานหนักชักไม่แน่
หรืออ้างแค่หายห่างทางคนเศร้า
ทิ้งคำลาคราเบื่อเหลือเพียงเงา
แล้วหายเข้าเมฆาลับตากัน

คงสาสมแก่ใจใช้เสน่ห์
หลากร้อยเล่ห์ลมรสพจน์เสกสรร
ให้สาวน้อย-ใหญ่หลงดงจำนรรจ์
กระหยิ่มหยันสะใจก็ไกลลา

มองสาวน้อยกลอยใจคล้ายกบเขียด
ระงมเบียดร้องครวญรัญจวนหา
โหยหวนแว่วแล้วไยไม่เห็นมา
ฝากวาจาหว่านล้อมตะล่อมใจ

อยากจะเคืองเรื่องใหญ่ใจไม่อาจ
มิสามารถตัดทิ้งชิงชังได้
บทขึ้นโกรธลดลงเหตุปลงไว
เพราะน้ำคำเขาใส่คล้ายเวทมนต์

เขียนคำส่งฝากไว้ก็ไม่ตอบ
เราก็ลอบรอคอยแทบถอยร่น
อยากจะวัดรู้สึกส่วนลึกคน
จะมากล้นเพียงใดไขมาที

ไม่อยากเชื่อวาจาอันว่านัก
ว่างานหนักหรือใจใคร่ชิ่งหนี
จำใจเชื่อคำอ้างอย่างโดยดี
เพราะเหตุมีคือไกลไม่เห็นกัน

นึกใบหน้าคราเขาเฝ้าคอยยิ้ม
ที่กระหยิ่มในใจไม่มีฉัน
หรือสำราญผ่านใจไปวันวัน
ที่ใครฝันเพ้อพร่ำรำพึงไป

เห็นกบเขียดเบียดร้องก้องโหยหา
รอเวลาต้มแกงซดแกงใหญ่
อร่อยลิ้นยินหูดูไฉไล
แต่หัวใจกบน้อยพลอยเหี่ยวลง..  งอนแล้วด้วย(คงต้องตาย  อิอิ )


(กลอนต่อกับลุงปรางค์ สามยอด ขอบคุณค่ะ) 

น้ำตา


 

น้ำตาคราหยาดหยด
เป็นน้ำกรดรดเสมอ
กร่อนกัดมัดละเมอ
ด้วยเพราะเพ้อเห่อน้ำตา

คราหนึ่งซึ้งเป็นเพื่อน
เฝ้าคอยเตือนเรือนอุรา
บัดนี้สายธารา
นัยนากลายน้ำไป

เป็นกรดรดรินหยาด
ที่คอยราดกัดหัวใจ
กร่อนเซาะเปราะข้างใน
ลึกทรวงให้ในวิญญาณ

รนรานปานใจขาด
แต่ไม่อาจหยุดราดผลาญ
ใจรักหักแหลกลาญ
คอยประหารใจอ่อนแอ

น้ำตาปร่ารินรด
เป็นน้ำกรดรดใจแพ้
กัดกินสิ้นดวงแด
สุดท้ายแท้แค่ละลาย

29/06/20

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

ดาวคอยจันทร์


ดาวคอยจันทร์

 สาวน้อยหัวเราะ

ดาวมิเคยเลยหายกลายไปไหน
ยังสถิตฟ้าไกลไว้เสมอ
เพียงตะวันบังบดลดแสงเธอ
แสงเพียงเบลอลางเลือนเคลื่อนสายตา


ใครบ้างรู้ความจริงสิ่งเป็นอยู่
และรับรู้ว่าดาวพราวเวหา
แท้คือดินละอองล่องนภา
มีเวลากาลดับอับแสงลง

เปล่งประกายเพียงใดใช่จันทร์ส่อง
มิรังรองผ่องเพ็ญเด่นแบบหงส์
แค่ดาวดินบินฝันอันบรรจง
มิยืนยงคงแสงแห่งใดใด

อีกหนึ่งใครรู้จริงสิ่งบังหน้า
ดวงดาราแอบเหงาเศร้าแค่ไหน
แอบหลงรักพระจันทร์หนุ่มกลุ้มหัวใจ   โฮ่ะ ๆๆๆ
เมื่อจันทร์ไกลไปรักภักดิ์สุรีย์   ทำตา ปิ๊งๆ

ทิ้งดาวน้อยคอยจันทร์วันเดือนดับ
ให้ดาวนับวันคอยแทบถอยหนี
เมื่อดาวจ๋าเปี่ยมรักและภักดี
แต่จันทร์ซีพี่เอ๋ยไยเฉยจัง 

หลายคนคอยชมดาวพราวเวหน
ขอเวทย์มนตร์ดวงดาวเป่ามนตร์ขลัง
คอยฝากดาวสื่อใจต่อไปยัง
อีกคนฝั่งหัวใจที่ไกลตน

แต่รู้ไหมดาวเศร้าเหงาที่สุด
ตราบมิหยุดรักจันทร์บุหลันล้น
อยากจะขอคืนบ้างนะบางคน
ช่วยจงดลพระจันทร์หันมาที


 ยิ้มกวนตีน

( คือเหตุผลของคืนเดือนมืด..องค์พระจันทร์มิทำหน้าที่..ไปจีบดวงอาทิตย์..ดาวอกหัก..อิอิ)
3/11/2010

"ภาพวาดชีวิต"

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

"ภาพวาดชีวิต"


เมื่อสนามชีวิตลิขิตแล้ว
อาจหม่นแววเส้นทางร้างสับสน
ผิดเพราะเขียนเพียรต่างผิดอย่างคน
หรือจะพ้นรอยร้าวคาวมลทิน

เขียนกลอนกานท์ขานผิดลิขวิดลบ
ยังอาจพบรอยด่างต่างไม่สิ้น
หากจะเปลี่ยนเขียนใหม่ในรอยดิน
ยังพบรอยราคินดินเปลี่ยนแปลง

เอายางลบอย่างดีที่มีลบ
รอยดินสอหาจบลบแขนง
ยังคงแผลรอยช้ำความเคลือบแคลง
เป็นจุดด่างแสดงแห่งงานนั้น

เหมือนวาดภาพสิ่งใดในชีวิต
เส้นอาจผิดเพี้ยนต่างอย่างแปรผัน
เกิดผิดถูกขัดใจไม่ต่างกัน
เหลือรอยอันหมองมัวสลัวมาน

เมื่อเขียนผิดตีตราว่าเป็นบาป
ใจหมองคราบผิดพลาดมิอาจหาญ
ปรับให้ได้เท่านั้นจะทันการณ์
อาจแก้งานเปลี่ยนทิศชีวิตเดิน

อาจมิงามสวยหรูดูซึ้งซาบ
ยังได้ภาพล้ำค่า..น่าสรรเสริญ
เป็นรางวัลภูมิใจใหญ่เหลือเกิน
เมื่อเผชิญดั้นด้นผ่านพ้นไป

อาจไม่เป็นภาพวาดดังตั้งจิต
แต่ชีวิตก็งามล้ำเด่นได้
แม้ยังมีรอยเปรอะเลอะข้างใน
แต่ก็ยังภูมิใจที่ได้ทำ

สิ่งดี...ที่สำเร็จ



28/11/2010
เอ้อ..จริงว่ะ

เพลงพิณศิลป์ระนาด



@ เพลงพิณศิลป์ระนาด @

เสียงระนาดบรรเลงเพลงพลิ้วไหว
จากห้วงทิพย์แดนไกลในเมืองกว้าง
แหวกม่านฟ้าฝ่าฝันอันรุ่งราง
สู่โสตนางห่างไกลในพนา


หลับตาพริ้มยิ้มรับเสียงขับขาน
มนต์แห่งกานต์แล่นไพรในพฤกษา
พลิ้วสะบัดพัดกล่อมล้อมนภา
ต้องเสน่ห์มนตราคราได้ยิน

ซับเสียงทิพย์หยิบพิณมาผินร่าย
วาดลวดลายไล้ศาสตร์ระนาดศิลป์
ขาดอ่อนช้อยสัมผัสไม่ชัดจินต์
โลมประทินกลิ่นอายไม่ละวาง

เสียงระนาดวาดลายถ่ายทอดกลับ
มนต์กานท์อ่อนต้อนรับซับทุกอย่าง
จบระนาดวาดฉายให้ทิศทาง
พิณจึงร่างตั้งเพียรเขียนลำนำ

เสียงพิณแปร่งแข็งกระด้างอย่างไม่เหมาะ
ขาดเสนาะสำเนียงเสียงน่าขำ
เสียงระนาดกล่อมจิตประชิดคำ
พิณเร่งจำบรรเลงเพลงกวี

ทิพย์ระนาดวาดศิลป์บินโลกกว้าง
กล่อมใจนางขับพิณถิ่นวิถี
จนสำเนียงรื่นหวานธารนที
เริ่มถูกคีย์ของพิณกินอารมณ์

เสียงระนาดบรรเลงเพลงดื่มด่ำ
พจน์งามล้ำน้ำหนึ่งจึงเหมาะสม
เสกสวรรค์ชั้นเยี่ยมเปี่ยมนิยม
จึงชื่นชมเสียงทิพย์กระซิบใจ


"ขอขอบพระคุณพี่ระนาดเอกที่ให้คำแนะนำการเขียนกลอนและเป็นกำลังใจมาโดยตลอดค่ะ"

 อายแบบน่ารัก
9/06/2010

ศาลรัก

            

               ...ข้าแต่ศาล...ที่เคารพ...
   
            ๐กระผมใคร่ ให้การ พยานปาก
     ด้วยคดี ที่ฟ้องพราก จากคำร้อง
     ขอเป็นโจทย์ โทษความ ตามครรลอง
     ให้จำเลย ได้ตรอง ร้องทนาย
                  ๐ตามสำนวน อัยการ ท่านประทับ
     และยอมรับ เข้ากระบวน ประมวลหมาย
     การกระทำ ย่ำยี จี้-ใจกาย
     ผิดกฎหมาย ร้ายแรง แทงใจดำ
            ๐ด้วยจำเลย เผยใจ ให้หลงรัก
     จนหัวปำ หัวปัก หักเทคว่ำ
     แล้วทอดทิ้ง ชิ่งหนี หนีน้ำคำ
     ที่เคยพร่ำ รักมั่น และสัญญา
            ๐ได้หัวใจ แล้วไกลจาก พรากขวัญหนี
     ก่อคดี ปล้นใจ ไปซึ่งหน้า
     เหลือร่องรอย บอบช้ำ และน้ำตา
     ที่นำมา ร้องคัด วัตถุพยาน
            ๐มิหน่ำซ้ำ ยังย้ำเย้ย มาเปรยหยัน
     ควงคู่หมั้น รายใหม่ มาไขขาน
     เหมือนตอกย้ำ ข่มขู่ ดูเบิกบาน
     ยังอาจหาญ เผยพิษ ติดสินบน
            ๐ข้าแต่ศาล ฏีกากลาง ทางความรัก
     จงลงโทษ ให้หน่วงหนัก จักสมผล
     ที่จำเลย เอ่ยอ้าง อย่างชอบกล
     เพราะหลอกคน ไว้มาก พรากจนเลือน
             ๐ขอต่อศาล วานฝัง ให้ขังเดี่ยว
     ให้อยู่เปลี่ยว เดียวดาย คล้ายเสมือน
     ที่จำเลย เคยทิ้งโจทย์ ให้โดดเรือน
     พร้อมรอยเปื้อน คราบน้ำตา ที่คาใจ.......

               ***เมฆา...***
     

" ประท้วงค่ะ..ขอฟ้องกลับ"

ข้าแต่ศาลคดีที่เคารพ
ฟังโจทย์กล่าวเล่าจบพบสิ่งไหน
มากล่าวหาจำเลยเอ่ยร่ำไร
ว่ากระชากลากใจไปย่ำยี

อันคำกล่าวเล่าอ้างต่างเป็นเท็จ
คิดสำเร็จใส่ร้ายทั้งป้ายสี
หาใช่ปล้นรักใครมาไว้ที
แต่ก่อนนี้ใจนั้นมันของเรา

โจทย์ต่างหากลากกลึงรั้งดึงฉุด
เอาหัวใจทั้งชุดสังเวยเขา
เอารักหลอกกรอกกลั้วให้มัวเมา
จะให้เราจำเลยเฉยอย่างไร

แค่หลบหนีลี้ใจเพื่อไปพัก
แต่โจทย์จักหักหาญพลันหมองไหม้
ต้องตกเป็นจำเลยเอ๋ยช้ำใจ
จะโทษทัณฑ์ฉันใดตรองให้ชัด

แค่เอาใจกลับคืนเพราะขื่นล้น
ก็กล่าวหาว่าปล้นทนเคืองขัด
จะกล่าวร้องฟ้องหมิ่นกลับลิ้นมัด
วาจาจัดใส่ร้ายใครรึยอม

พยานเราก็มีชี้ให้เห็น
คราบน้ำตากระเซ็นเป็นธารล้อม
ขอฟ้องกลับปรับไหมเหตุใจตรอม
ไม่มีทางรอมชอมหรือยอมความ

หากโทษหนักกักขังอย่างเดี่ยวโดด
ต้องลุโทษโจทย์รักพ่อนักพล่าม
เพราะใส่ร้ายป้ายสีที่เกินงาม
ให้โดดเดี่ยวเปลี่ยวตามไม่ต่างกัน

ขำแบบกระแดะหน่อยๆ  มะสะแป  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ
....โจทย์ร้องค้าน...การประท้วง...

           ๐ขอเบิกความ ตามค้าน แด่ศาลสถิตย์
    โปรดพินิจ ถ้อยคำ จำเลยไข
    โจทย์รู้ดี ที่เอ่ยอ้าง เป็นอย่างไร
    โดยดูได้ จากคำกล่าว เล่าบิดเบือน
           ๐สังเกตุว่า จำเลย เอ่ยถ้อยขัด
    กลับรวบรัด ตัดความ ต่างความเหมือน
    ว่าหัวใจ เป็นของตัว  โจทย์มั่วเลือน
    แล้วเอ่ยเอื้อน ฝืนให้ ทำไมกัน
           ๐เห็นได้ว่า หัวใจ ที่ให้โจทย์
    หวังประโยชน์ ทางรัก ประจักษ์มั่น
    พอสมใจ อยากได้คืน ก็คืนพลัน
    ช่างแสบสัน โยนโทษ ให้โจษจาน
           ๐อีกประเด็น เห็นอ้าง สร้างพยานเท็จ
    อ้างว่าเช็ด น้ำตาเห็น กระเซ็นซ่าน
    ดุจไหลหลาก มากมาย สายลำธาร
    โอ้ดวงมาลย์ เจ้าเล่ห์ เกเรจริง
           ๐ข้าพเจ้า ขอเบิกพยาน ด้านเทคนิค
    ให้ความพลิก เปิดประเด็น เห็นทุกสิ่ง
    วงจรปิด ติดบันทึก นึกประวิง
    ว่าแท้จริง เป็นอย่างไร ในเหตุการณ์
           ๐ด้วยน้ำตา ที่ไหล คือใจโจทย์
    ด้วยต้องโทษ ศาลเตี้ย เขี่ยประหาร
    จากจำเลย เย้ยหยัน วันก่อการ
    ก่อนซมซาน ร่ำร้อง ฟ้องคดี
           ๐คำประท้วง ล่วงละเมิด เชิดหลอกศาล
    ดั่งวันวาน หลอกโจทย์ แล้วโอดหนี
    โปรดพิเคราะห์ เจาะความ ตามเห็นดี
    ว่าจำเลย คนสวยนี้ มีอาญา......

 
              ***เมฆา...***

" ข้าแต่ศาลคะ..ขอคัดค้านพยานโจทย์ค่ะ "

ข้าแต่ศาลยุติธรรมฟังความก่อน
อย่าใจร้อนร่อนโทษเพราะโจทย์ท้า
สร้างพยานเทคนิคหลอกหยิกตา
ให้ไขว้เขวเสวนาว่านอกความ

โปรดพินิจพิศความตามคำโจทย์
ใส่จำเลยควรโทษขื่อคาหาม
เหตุสื่อเท็จเด็ดถ้อยให้คล้อยตาม
พยายามพล่ามหลอกบอกไม่จริง

จะเห็นว่าอ้างพยานผ่านเทคนิค
เหมือนจะพลิกประเด็นเลือดเย็นยิ่ง
ช่างวางแผนแปลนร่างมาอ้างอิง
เตรียมทุกสิ่งแยบคายหมายลงทัณฑ์

จากประเด็นอ้างใจที่ให้โจทย์
เพราะประโยชน์บังหน้าช่างน่าขัน
ที่เอาคืนขื่นจริงโจทย์ทิ้งมัน
จะให้ฉันทำไงโปรดไขที

อีกประเด็นกล่าวหาน้ำตาไหล
จากหัวใจของโจทย์ขอโทษพี่
เหมือนวางแผนรวบรัดจัดอย่างดี
จำเลยมีมลทินไม่สิ้นอาย

ด้วยคำสัตย์จำเลยที่เอ่ยกล่าว
น้ำตาเราทั้งหมดโปรดขยาย
รักที่ให้ใช่หวังตั้งทำลาย
แต่โจทย์กลายร้ายมากมักเล่ห์ลวง

ข้าแต่ศาลอ่านเถิดเปิดฎีกา
จำเลยแพ้หมดท่าคราหลงบ่วง
ติดแผนร้ายหมายดิ่งทิ้งเลิกควง
ก็จาบจ้วงชิงฟ้องร้องลงทัณฑ์

ทำตา ปิ๊งๆ  มะสะแปค่ะ   ทำตา ปิ๊งๆ


....ข้าแต่ศาล..ขอคัดค้านทั้งพยานและจำเลย....

        ๐ขอเคารพ นบศาล สาบานถ้อย
  ตัวข้าน้อย รอยร่อง ยังมองเห็น
  ใจที่ช้ำ จำเลยเชือด อย่างเลือดเย็น
  ยังคงเป็น แผลเหวอะ เปรอะเปื้อนตัว
        ๐คือหลักฐาน ค้านคำ จำเลยตอบ
  ปากคำสอบ ชอบอ้าง อย่างสั่นหัว
  ว่าทางโจทย์ โกรธเคือง เรื่องตื่นกลัว
  เข้าข้างตัว จั่วเหลี่ยม เสี้ยมพยาน
        ๐แล้วคู่หมั้น คนใหม่ อยู่ไหนเล่า
  ไม่เห็นเอา เขาขึ้น มายืนศาล
  หรือว่าแอบ ลักลบ กลบพยาน
  แล้วยื่นค้าน ด้านโจทย์ ให้โทษทัณฑ์
        ๐พร้อมปั้นแต่ง แกล้งร้อง น้ำนองเนตร
  หวังเป็นเหตุ ให้ศาล พลิกด้านหัน
  ใช้มารยา สาธยาย ให้ร้ายกัน
  แล้วแอบกลั้น อมยิ้ม กระหยิ่มตา
        ๐บอกว่าโจทย์ โหดร้าย หมายทอดทิ้ง
  หากเป็นจริง สิ่งกล่าว เข้าปัญหา
  ฟังไม่ขึ้น ยืนกราน ที่ผ่านมา
  โจทย์รักจริง ยิ่งกว่า นางฟ้าใด
        ๐เพราะฉะนั้น คำค้าน ที่หว่านล้อม
  เป็นเรื่องปลอม เปลี่ยนแปลง แสร้งกรอกใส่
  ให้ลูกขุน วุ่นวน สับสนใจ
  เพื่อหวังให้ พิพากษา ว่าโจทย์แปร
        ๐อ้างมาตรา หน้าหัวใจ ในวรรคสอง
  หากจำเลย เอ่ยร้อง พูดสองแง่
  ให้ลงทัณฑ์ ประกันยก อกเชือนแช
  ด้วยต้องแพ้ คำที่อ้าง อย่างลอยลอย.......


              ***เมฆา...***


" ศาลที่เคารพคะ...ฟ้องหมิ่นประมาทอีกข้อหาค่ะ  จำเลยไม่มีคู่หมายอย่างที่โจทย์กล่าวหา "

ข้าแต่ศาลโปรดพินิจพิศดูก่อน
ไยโจทย์ป้อนความผิดสะกิดถ้อย
ยกเมฆกล่าวปดคำทำซ้ำรอย
ว่าผู้น้อยมั่นหมายอ้างใครกัน

หมิ่นประมาทจัดว่าข้อหาหนัก
จำเลยรักหักใจให้แสบสัน
ถูกกล่าวหาปล้นใจร้ายสำคัญ
ยังยัดดันข้อหาว่านอกใจ

คำให้การของโจทย์โปรดพินิจ
มีสิ่งปิดแอบแฝงแกล้งหรือไม่
อ้างมือสามทำลูกขุนหัวหมุนไว
ทั้งที่ไม่มีหลักฐานมาค้านติง

กล่าวเลื่อนลอยอย่างโจทย์ช่างโหดนัก
อ้างว่ารักมากกว่านางฟ้ายิ่ง
บัดประหารหัวใจไม่ประวิง
เพชฌฆาตมาดยิงทิ้งให้ตาย

อ้างมาตราหัวใจในวรรคสาม
หากจำเลยถูกตามข้อกฎหมาย
ว่าด้วยรักภักดิ์ซื่อถือไม่คลาย
ให้ล้างอายเลิกฟ้องต้องอาญา

 แบร่...ๆ  มะสะแป   แบร่...ๆ
ขำแบบกระแดะหน่อยๆ
  

  ...ข้าแต่ศาล..ขอประนอมยอมความตามที่จำเลยร้องครับ.....

              ๐ข้าแต่ศาล ยุติธรรม ทางความรัก
       หากจำเลย เผยประจักษ์ ในวรรคสาม
       ว่าด้วยรัก ภักดิ์ซื่อ คือข้อความ
       ขอประนอม ยอมความ ตามจำนงค์
               ๐กระบวนการ จากนี้ ที่โจทย์ยื่น
       ขอโปรดคืน สำนวน ชนวนหลง
       เมื่อจำเลย เอ่ยรัก จักมั่นคง
       ขอเพียงลง รออาญา ห้าสิบปี
               ๐หากจำเลย กระทำ ให้ช้ำอีก
       เจตนา หลบหลีก ฉีกใจหนี
       จะร้องศาล อาญาคืน ฟื้นคดี
       ดั่งที่มี โจทย์ค้าน พยานยืน
               ๐ขอว่าความ ตามกฏหมาย ในท้ายสุด
       จะขอหยุด คำร้องอ้าง อย่างชื่นมื่น
       ใช้มาตรา ว่าด้วยรัก ถักทอคืน
       ให้ใจตื่น ฟื้นฟู ปูทางไป
               ๐ขอขอบคุณ ลูกขุนคู่ ผู้พิพากษา
       ที่ช่วยกัน พิจารณา ปํญหาให้
       ก็จบลง ด้วยโจทย์ยอม ประนอมใจ
       เพราะรักใน จำเลย มิเคยแปร
               ๐ความสุดท้าย ขยายคำ จำเลยรัก
        โจทย์ตระหนัก ปักทรวง ห่วงแน่แท้
        ทั้งชีวิต มอบหัวใจ ให้ดวงแด
        ขอยอมแพ้ เพราะรัก ปักดวงใจ
        ....ขอยอมแพ้ เพราะมิอยากห่าง ร้างแรมไกล...

          ๐๐ด้วยความเคารพ ศาลรัก จากทรวงใน๐๐

                ***เมฆา...***
       งกจริงๆ เอ้อ..จริงว่ะ แบร่ๆ ส่งจูบจ้ะ


" ข้าแต่ศาล ยินยอมประนอมความตามโจทย์เสนอ ค่ะ "

ข้าแต่ศาลคดีคลี่คลายรัก
เมื่อโจทย์ทักชักฟ้องร้องขอให้
จับเชลยเผยรักอย่างสิ้นใจ
รู้เหตุในถ่องแท้แพ้พยาน

โจทย์ยกฟ้องร้องโทษที่โหดหนัก
จำเลยรักพักใจภายใต้ศาล
เหตุเพราะกั้นรู้สึกตรึกไม่นาน
จึงเกิดม่านบังใจให้ระแวง

เมื่อพิสูจน์หลักฐานผ่านแน่ชัด
สำนวนมัดคลายปมที่ข่มแช่ง
ขอจำเลยเปรยใจไม่เคลือบแคลง
และโจทย์พร้อมแสดงสิ่งแฝงมาลย์

พร้อมคณะลูกขุนคุณทนาย
ช่วยขยายไขแจ้งแสดงสาร
ทั้งมูลเหตุทั้งหลายได้พยาน
จึงพ้นผ่านคลายคดีที่เป็นธรรม

เมื่อกำหนดบทท้ายในสรุป
ก็ขอยุบเรื่องฟ้องร้องกลับซ้ำ
ปลดคดีจี้รักออกจองจำ
ขอบคุณคำตัดสินทั้งสิ้นมวล

ยอมรอลงอาญาวาจาศาล
แม้เนิ่นนานผ่านไปไม่ผันผวน
บัดอย่าลืมสินไหมจ่ายทบทวน
ชดใช้ด่วนถ้วนตัวและหัวใจ


ด้วยความเคารพ..ศาลรัก. .ปักใจไม่อาจถอน
..

 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล


V
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v


 โอว์...มายก็อด    จบเหอะ !  พี่น้องคร๊าบ!... ปวดขี้อ่ะ

ขำแบบกระแดะหน่อยๆ   เอ้อ..จริงว่ะ  เอ้อ..จริงว่ะ  เอ้อ..จริงว่ะ  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

 ขอขอบคุณเมฆา..ผู้เยี่ยมยุทธค่ะ
ขึ้นศาล 30/06/2010  จบคำพิพากษา 1/07/2010

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

"สัญญาณใจ"



"สัญญาณใจ" 

สัญญาณเน็ทเหตุห่างอ้างว้างนัก
สัญญาณรักชักห่างดั่งกั้นฝา
สัญญาณใจให้อ่อนร้อนอุรา
สัญญาณลามาใกล้ให้หวั่นทรวง


บอกเป็นลางเลวร้ายในสายรัก
อาจถูกหักดักขาดเพราะพลัดช่วง
สัญญาณอ่อนร้อนใจกลัวไฟลวง
คลื่นติดบ่วงห่วงใจไม่ถึงกัน

สัญญาณใดคลื่นแรงจะแซงคิด
เพียงสะกิดนิดเดียวก็เกี่ยวฝัน
ให้เตลิดเชิดหายไปทั้งวัน
ด้วยผูกพันใจเธอเพ้อตาปรอย

ฟ้าไม่เปิดเกิดภัยให้ร้ายหาม
มิอาจห้ามหัวใจให้ถดถอย
รักทะลวง..ล่วงผ่าน..ฟ้า..ป่า..ดอย ?
จะดิ่งเหวหอคอยยังลอยไป

เผชิญหน้ากล้าหาญผ่านสิ่งกั้น
ส่งสัญญาณด้นดั้นบั่นไปให้
แม้หมอกพลางบังมิดปิดคลื่นใด
แต่สัญญาณหัวใจไม่ท้อเลย

 
25/07/2010 

 สาวน้อยหัวเราะ

"ใกล้แล้วเจ็บ"



 "ใกล้แล้วเจ็บ"
หัวใจติดปลายมีดคอยกรีดรัก
เจ็บปวดนักเธอไกลคล้ายประหาร
จะแร่เนื้อเถือใจให้ทรมาน
เฝ้าเผาผลาญนานมากสักเท่าใด


หนึ่งนาทีที่ใจได้หลงรัก
แทบกระอักรักร้ายที่หมายให้
รักบ้าคลั่งอย่างนี้มิตั้งใจ
เป็นเหมือนไฟค่อยรนคนเลือดเย็น

อยู่ห่างห่างอย่างเจ็บมิเหน็บช้ำ
เหมือนอยู่ใกล้ให้ถลำย้ำสิ่งเห็น
ให้ความรักฆ่าได้ตายทั้งเป็น
ฝืนลำเค็ญเช่นรักที่หักพลัน

จะอยู่ใกล้หรือไกลล้วนได้เจ็บ
แต่ขอเก็บหัวใจไกลห้ำหั่น
ขอเจ็บน้อยกว่าจิตอยู่ชิดกัน
ปวดน้อยลงเท่านั้น..ก็คงพอ
26/07/2010


" ฝ่าวงล้อมหัวใจ"


 
" ฝ่าวงล้อมหัวใจ"

ฝ่าวงล้อมใจตนที่รนอยู่
แม้อดสูพรหมซ้ำตามหาญหัก
เพราะถลำล้ำใจไปไกลนัก
ความเจ็บหนักดักไว้ให้รวนเร

ประหวั่นใจในทางที่ขวางไว้
จะฝ่าใจให้พ้นบนรักเห
ทั้งรัก,หลงดงใจได้ทุ่มเท
ต้องถูกเล่ห์เซซัดมัดใจตน

ทางมืดมิดปิดไว้เหมือนใจบอด
รักถูกถอดทอดไว้ให้สบสน
จะฝ่าเมฆทะมึนฝืนกมล
เมื่อไหร่ยลเมฆขาวราววิมาน

ฝ่าวงล้อมความรักที่ดักกว้าง
กับสายทางหดหู่สู่สุสาน
หลุมซากรักรากฝังขังตามกาล
ยิ่งเนิ่นนานทับถมระทมใจ

ฝ่าวงล้อมหัวใจใครกันสร้าง
ดงรักขวางทิ่มแทงแหยงจ้วงใส่
กว่าจะผ่านธารรักสักวันใด
จึงจะไกลใจภักดิ์ที่รักเธอ


 สาวน้อยหัวเราะ 
09/08/2010



นิยมสูง

อาคันตุกะ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ถูกอกถูกใจกดไลค์กดแชร์นะคะ