วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559
วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559
"ฉันจะเดินบนฝัน..ของฉันเอง"
ในบ่อยครั้งรู้สึกลึกอ่อนล้า
ความประหม่ากังวลระคนหวัง
การต่อสู้รู้เสี่ยงเพียงลำพัง
กลัวก็ยังต้องไป..ใช้ชีวิต
ทุกก้าวรุกบุกทางอย่างหวาดหวั่น
มุ่งประจัญเดินท้าฟ้าลิขิต
ผ่าตำนานนักสู้ผู้พิชิต
ให้ถึงทิศที่ตั้งอย่างทะนง
ทุกก้าวย่ำเหยียบหนามท่ามกลางหมอก
เนื้อถลอกเลือดคั่งภวังค์หลง
ถูกประณามด่าทอท้อเกินปลง
จะยังคงเดินก้าวเข้าประชัน
ฉันไม่เคยมีฝันของวันไหน
ที่ใครใครหยิบยื่น ณ คืนฝัน
ไม่บังอาจกล้ายลผลของมัน
แม้สักวัน..นาที..นี้ไม่เจอ
ฉันไม่เคยได้พบประสบฝัน
ที่มีใครไหนกันนั้นเสนอ
ความโดดเดี่ยวต่างหากมักปรนเปรอ
มาเผยอจิตใจไม่เชื้อเชิญ
แม้ไม่มี..ไม่ง้อขอความฝัน
ปลายฟ้านั้นอาจมีมาก..หากผิวเผิน
มิอาจหวังฝันใดที่ใครเพลิน
หากจะเดินบนฝัน..ของฉันเอง
ความประหม่ากังวลระคนหวัง
การต่อสู้รู้เสี่ยงเพียงลำพัง
กลัวก็ยังต้องไป..ใช้ชีวิต
ทุกก้าวรุกบุกทางอย่างหวาดหวั่น
มุ่งประจัญเดินท้าฟ้าลิขิต
ผ่าตำนานนักสู้ผู้พิชิต
ให้ถึงทิศที่ตั้งอย่างทะนง
ทุกก้าวย่ำเหยียบหนามท่ามกลางหมอก
เนื้อถลอกเลือดคั่งภวังค์หลง
ถูกประณามด่าทอท้อเกินปลง
จะยังคงเดินก้าวเข้าประชัน
ฉันไม่เคยมีฝันของวันไหน
ที่ใครใครหยิบยื่น ณ คืนฝัน
ไม่บังอาจกล้ายลผลของมัน
แม้สักวัน..นาที..นี้ไม่เจอ
ฉันไม่เคยได้พบประสบฝัน
ที่มีใครไหนกันนั้นเสนอ
ความโดดเดี่ยวต่างหากมักปรนเปรอ
มาเผยอจิตใจไม่เชื้อเชิญ
แม้ไม่มี..ไม่ง้อขอความฝัน
ปลายฟ้านั้นอาจมีมาก..หากผิวเผิน
มิอาจหวังฝันใดที่ใครเพลิน
หากจะเดินบนฝัน..ของฉันเอง
มะสะแป ..จ้า!
วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559
"พอใจที่ได้เพียร"
"พอใจที่ได้เพียร"
ทุกอณูอ่อนไหวในดวงจิต
ศิลป์ประชิดชื่มชมนิยมศรี
ศิลป์ประชิดชื่มชมนิยมศรี
ซึมซาบผ่านมานบางช่างเปรมปรีดิ์
เรียนวิธีสร้างสรรค์งานวิไล
ทุกรำพันห้วงโศกหรือโลกเศร้า
ศิลป์ยังเข้าแทรกผ่านให้มานไหว
ทุกขณะตรอมตรมขมทรวงใน
ยังแทรกไปในตรึกลึกนานยาว
ที่เขียนกลอนเพราะสุขคลายทุกข์ร้อน
ระบายผ่อนความเจ็บความเหน็บหนาว
มิใช่เพื่อซีไรท์ใต้ดวงดาว
จึงส่องพราวแค่นี้ที่ได้ยล
แต่ไม่เคยลืมคำครูพร่ำสอน
ศิลปะบวรใช่นอนปล้น
ค่าจะเชิดเลิศสูงปรุงกมล
ด้วยศิลป์ดลผลสร้างอย่างบรรจง
ทุกพื้นฐานเรียนรู้คู่แสวง
ให้รู้แจ้งแห่งกวีที่สูงส่ง
แม้เขียนถ้อยน้อยค่าเพียงป่าดง
เท่านี้คงพอใจที่ได้เพียร
masapaer
วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
"ร่านดอกงิ้ว"
งิ้วสะท้านหวั่นไหวในลมหวน
พลิ้วรัญจวนชวนฝันยันสว่าง
เพียงผ่านแผ่วแก้วหูอยู่บางบาง
แทบแพ้ทางเรียวปากออกจากชาย
งิ้วพลิ้วลมพรมพื้นอยู่ดื่นดาษ
มิผุดผาดดั่งงิ้วปลายทิวสาย
เริงร่ารอผู้บ้าคลั่งอย่างท้าทาย
เชิญปีนป่ายคลอเคล้าเอาตามใจ
สะบัดพลิ้วพลางหลอกเป็นดอกรัก
ภูมรินบินทักกวักดอกไหว
ร่ายสุคนธ์ยวนยั่วอยู่ทั่วไป
ภูวนัยจงมาคว้าชื่นชม
ดอกรักเลือดรอชิมลิ้มรสเลือด
จะได้เชือดนิ่มเนื้อเถือให้สม
ลิ้มโลหิตจิตตกอกตรอมตรม
จะระทมเช่นไรไม่สะท้าน
หนามแหลมคมกว่ามีดจะกรีดเนื้อ
หากแม้นเชื่อสิ่งเห็นเป็นความหวาน
แลหวังปลิดดอกงิ้วที่พลิ้วบาน
ด้วยหลงร่านดอกงิ้ว..จะพลิ้วรอ
พลิ้วรัญจวนชวนฝันยันสว่าง
เพียงผ่านแผ่วแก้วหูอยู่บางบาง
แทบแพ้ทางเรียวปากออกจากชาย
งิ้วพลิ้วลมพรมพื้นอยู่ดื่นดาษ
มิผุดผาดดั่งงิ้วปลายทิวสาย
เริงร่ารอผู้บ้าคลั่งอย่างท้าทาย
เชิญปีนป่ายคลอเคล้าเอาตามใจ
สะบัดพลิ้วพลางหลอกเป็นดอกรัก
ภูมรินบินทักกวักดอกไหว
ร่ายสุคนธ์ยวนยั่วอยู่ทั่วไป
ภูวนัยจงมาคว้าชื่นชม
ดอกรักเลือดรอชิมลิ้มรสเลือด
จะได้เชือดนิ่มเนื้อเถือให้สม
ลิ้มโลหิตจิตตกอกตรอมตรม
จะระทมเช่นไรไม่สะท้าน
หนามแหลมคมกว่ามีดจะกรีดเนื้อ
หากแม้นเชื่อสิ่งเห็นเป็นความหวาน
แลหวังปลิดดอกงิ้วที่พลิ้วบาน
ด้วยหลงร่านดอกงิ้ว..จะพลิ้วรอ
มะสะแป
~นับวัน~
~นับวัน~
ดาวระฟ้าเกลื่อนกลาดขาดคู่นับ
สายตาจับดาวเด่นเป็นต้องเผลอ
นิมิตภาพฉาบแสงแปลงเป็นเธอ
แบบเฝ้าเพ้อรำพันนั่นทุกคืน
เก็บเงาดาววางไว้ในท้องฟ้า
เรียงดาราพิลาสอันดาษดื่น
บรรจงร้อยเป็นหมายให้เธอยืน
ฝันเธอยื่นมือรับนับเวลา
หนึ่งสองสามยามนี้ดาวมีน้อย
วางเรียงร้อยคอยไว้ในเวหา
เป็นสะพานโค้งรุ้งทุ่งดารา
รอเธอมาคอยนับพร้อมกับเรา
สองหมื่นดวงสามวันผ่านไปแล้ว
สะพานแถวดาวสร้างยังว่างเปล่า
เพียงสายลมห่มไล้ใจบางเบา
แทนกอดเขาเท่านั้นที่ฉันมี
มะสะแป
วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559
"เกินทำใจ"
ที่คล้ายยืดเวลาอสงไขย
ห้วงมิติดูกว้างและห่างไกล
ตลอดช่วงเวลาของความฝัน
เนิ่นนิรันดร์ปรารถนาเวลาตื่น
ทว่าเจ็บฉุดรั้งล้มทั้งยืน
เกินกว่าฟื้นภวังค์ในกังวน
มิมีทางรู้ได้ใจของเขา
ที่บางเบากว่าเมฆเสกสายฝน
คืนและวันผันเปลี่ยนเวียนต่างคน
คล้ายกมลหลายดวงพ่วงในกาย
แม้นคำวอนระย้าฝ่าสายหมอก
ประกาศบอกถึงคนที่หล่นหาย
เสียงต้นทางกลับผ่อน ณ ตอนปลาย
สบสุดท้ายก็จางและบางลง
ความรู้สึกว่ารอก็มาถึง
รอคำหนึ่งซึ่งเราเฝ้าประสงค์
เขาจะรับรู้ไหมใครบรรจง
และดำรงด้วยรักพำนักรอ
ระยะห่างสองคนดูหม่นล้า
คงเกินกว่าคำวอนที่อ้อนขอ
จะส่งถึงรู้สึกได้ลึกพอ
คำว่า “ท้อ” รอซ้ำเกินทำใจ
masapaer
วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559
" คนเฝ้าบอร์ด 2 "
นั่งเฝ้าบอร์ดกอดหมอนแล้วนอนอ่าน
สุขสำราญอารมณ์สมสมัย
อิ่มประพันธ์ชั้นหนึ่งล้วนตรึงใจ
ของมวลมิตรชิดใกล้ในบอร์ดกลอน
อ่านก็ยิ้มพิมพ์ใจในทุกครั้ง
เทียวลุกนั่งทั้งเดินเพลินอักษร
ไม่อยากพลาดพจนีนี้สักตอน
คอยต่อศัพท์สุนทรอ้อนไปมา
อยากให้มิตรรู้ไว้แม้ไม่เห็น
ในประเด็นกลอนต่อหัวร่อร่า
ยามเธอด้นกลอนขำทำฉันฮา
ก็นั่งบ้าหัวเราะเพราะกลอนเธอ
คนเฝ้าบอร์ดกอดเข่ามีเศร้าบ้าง
หากพบบางสำนวนชวนให้เผลอ
ด้วยอารมณ์อ่อนไหวเมื่อได้เจอ
กลอนพร่ำเพ้ออกหักรักเรรวน
ด้วยสหายจรดพจนารถ
อารมณ์บาดในตรึกลึกครบถ้วน
หลากลีลาอารมณ์ปานคมทวน
ล้ำกระบวนต่อศัพท์ขับกวี
คนเฝ้าบอร์ดอ่านเพลินเกินจะหยุด
แต่มโนยังผุดไม่หลุดหนี
นอนเฝ้าบอร์ดรอคนรนทุกที
เธอไม่มีไม่มายังบ้ารอ
สุขสำราญอารมณ์สมสมัย
อิ่มประพันธ์ชั้นหนึ่งล้วนตรึงใจ
ของมวลมิตรชิดใกล้ในบอร์ดกลอน
อ่านก็ยิ้มพิมพ์ใจในทุกครั้ง
เทียวลุกนั่งทั้งเดินเพลินอักษร
ไม่อยากพลาดพจนีนี้สักตอน
คอยต่อศัพท์สุนทรอ้อนไปมา
อยากให้มิตรรู้ไว้แม้ไม่เห็น
ในประเด็นกลอนต่อหัวร่อร่า
ยามเธอด้นกลอนขำทำฉันฮา
ก็นั่งบ้าหัวเราะเพราะกลอนเธอ
คนเฝ้าบอร์ดกอดเข่ามีเศร้าบ้าง
หากพบบางสำนวนชวนให้เผลอ
ด้วยอารมณ์อ่อนไหวเมื่อได้เจอ
กลอนพร่ำเพ้ออกหักรักเรรวน
ด้วยสหายจรดพจนารถ
อารมณ์บาดในตรึกลึกครบถ้วน
หลากลีลาอารมณ์ปานคมทวน
ล้ำกระบวนต่อศัพท์ขับกวี
คนเฝ้าบอร์ดอ่านเพลินเกินจะหยุด
แต่มโนยังผุดไม่หลุดหนี
นอนเฝ้าบอร์ดรอคนรนทุกที
เธอไม่มีไม่มายังบ้ารอ
~masapaer~
วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559
"ยำตะไคร้กุ้งสด"
"ยำตะไคร้กุ้งสด"
ตะไคร้หั่นบางบางอย่างพอเหมาะ
โดยเฉพาะส่วนหัวยั่วหนักหนา
หั่นหอมแดงแบ่งส่วนนวลกานดา
มะนาวผ่าคั้นน้ำเอาตามใจ
โขลกพริกสดเตรียมไว้เอาให้พร้อม
ถั่วคั่วหอมโรยหน้าอย่าลืมใส่
สาระแหน่แน่นักเด็ดพักไว้
ส่วนสำคัญ"กุ้ง"ไง ไปเตรียมกัน
หลังจากล้างแกะเปลือกเลือกหัวออก
ผ่าหลังลอกเส้นดำอยู่ตามสัน
เคล็ดไม่ลับต่อมานะสำคัญ
แช่โซดาตามนั้นนั่นอย่านาน
สักสิบห้านาทีนี้คงได้
พักเอาไว้ยำสดรสจัดจ้าน
ต่อไปทำน้ำปรุงกินพุงบาน
เอาแบบร้านขึ้นชื่อที่ลือชา
น้ำตาลปี๊บหนึ่งถ้วยช่วยจำนะ
มีน้ำมะขามเปรี้ยวรสเสียวซ่า
เอาส่วนสี่พองามเหมือนน้ำปลา
น้ำตาลทรายเอามาด้วย..หนึ่งถ้วยตวง
เอาสี่อย่างตั้งไฟลงในหม้อ
ไฟอ่อนพอละลายก็หายห่วง
ยกพักเย็นรอยำอันฉ่ำทรวง
มาต่อช่วงคลุกเคล้าที่เรารอ
เอาน้ำปรุงมาลงตรงชามใหญ่
ตามตะไคร้มะนาวเอาพริกต่อ
หอมแดงซอยลงชามตามใจพอ
กุ้งลวกหนอคลุกเคล้าเข้าเร็วซี
ตักใส่จานโรยถั่วคั่วหอมแท้
สาระแหน่แค่โรยโปรยถี่ถี่
สมุนไพรในจานนั้นมากมี
ยำจานนี้แซ่บ!เวอร์..ชวนเธอลอง
~masapaer~
วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559
@ แม่ @
@ แม่ @
เป็นผู้หญิงยิ่งใหญ่ในโลกนี้
ที่พร้อมพลีอกอุ่นหนุนรักษา
ปกปักเรายิ่งชีพทิพย์มารดา
ฤาจะหาผู้ใดใคร่มาแทน
เพียงหนึ่งเดียวเทียวป้องอันตราย
ยอมชีพวายแลกให้ไม่หวงแหน
คอยมอบรักรินไหลไม่ขาดแคลน
จากห้วงแดนแห่งใจใดเทียบนาง
เป็นผู้หญิงที่แปลกแลกชีวิต
กับโลหิตแห่งกายที่ได้อ้าง
แต่คือเนื้อส่วนหนึ่งซึ่งของนาง
แลยอมดับแลกร่างต่างให้เรา
มีชีวิตยืนได้ในวันนี้
เพราะนางพลีหัวใจ,กาย,หม่นเศร้า
เหงื่อกลายเลือดเหือดสิ้นผินเป็นเทา
ยังคงเฝ้าดูแลแม้ต้องตรม
ต้องระบมซมกายอยู่เท่าใด
ทั้งหัวใจไล้คราบอาบความขม
ไม่เคยหวั่นพรั่นใจในระทม
หวังเพียงบ่มเลี้ยงเราเฝ้าดูแล
คำหนึ่งคำพร่ำเรียกเพรียก “แม่จ๋า”
ใดเทียบค่าสิทธ์นั้นปันจากแม่
ให้เพียงลูกปลูกไว้ไม่เชือนแช
สัมผัสอุ่นสิ่งแท้แค่หนึ่งเดียว
“รักแม่...ดูแลแม่”
วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559
“ถามเอง ตอบเอง”
“ถามเอง ตอบเอง”
ตื่นขึ้นมายามเช้าเหงาไหมเอ่ย
ใจจึงเปรยความคิดที่จิตวุ่น
ตอบตัวเอง “พอไหว” ในอรุณ
พออบอุ่นบางครั้งอย่างเดียวดาย
สายแล้วนั่นทานข้าวหรือเปล่าหนา
กลั่นคำตอบค้างคาน่าใจหาย
“เหมือนท้องเสียเพลียใจไม่สบาย
เดี๋ยวตอนสายค่อยทานนั่นยังไง”
เที่ยงแล้วนะทานข้าวหรือเปล่าจ๊ะ
ยังหรอกนะ..เที่ยงนี้ทานที่ไหน
หรือกาแฟแก้ง่วงถ่วงแทนไป
ตอบคำถามเป็นไฟให้ตัวเอง
บ่ายแล้วนะพักหน่อยค่อยดีนิด
ใจสะกิดถามตนวนคร่ำเคร่ง
แล้วเย็นนี้ที่ไหนไปฟังเพลง
อย่างหวั่นเกรงดินเนอร์เพ้อกับลม
ตั้งคำถามย้ำคิดติดคำตอบ
เฝ้าคอยลอบถามใจไยจึงขม
คอยตอบมอบหัวใจไยระทม
เพียงแค่ซมป่วยใจ “ใคร” ไม่มี
เพ้อคอยใครมาถามคำห่วงหา
คล้ายคนบ้าพร่ำเพ้อละเมอถี่
ฝันลมแล้งต่อไปได้ทุกที
ก็เท่านี้คำถาม..พล่ามตอบเอง
เออเองก็ได้..
~masapaer~
วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
~หลงละอ่อน~
~หลงละอ่อน~
อาจแค่หญิงบอบบางคนอย่างฉัน
มีแค่ฝันลมแล้งระแหงโหย
ถูกเวลาคร่าทวงความร่วงโรย
กาลก็โปรยชราทาบทานวล
ระยะทางชีวิตประดิษฐ์ไว้
แต่เยาว์วัยงามขำบ่กำสรวล
ทรัพย์สมบัติจัดเด่นเป็นกระบวน
รูปสมบัติชัดถ้วนชวนตรึงตรา
มากไหวพริบสมเนื้อเอื้องามสม
ฉลาดคมสกุลล้วนหนุนค่า
เป็นสตรีมีทรัพย์นับคณา
ทรัพย์จรรยาพร้อมเพียบใครเทียบนาง
ร่ำรวยยศรวยเกียรติเครียดอยู่หนึ่ง
เพียงรำพึงถึงรักกวักเรียกบ้าง
ล้วนชายหนุ่มรุมชอบอยู่รอบทาง
กลับรู้สึกอ้างว้างบ้างเดียวดาย
อันโหยหาคือใจที่ใฝ่รัก
เพียงพบพักตร์รักเขาใจเราพ่าย
ปรารถนาร้อนเร่าเผาวอดวาย
ใจละลายตอนแก่เป็นแน่นอน
จะปริปากบอกใครได้บ้างเล่า
รัก,หลงเขาชายหนุ่มกลุ้มเกินถอน
หนุ่มสิบเก้าสาวบั้นปลายใจอาวรณ์
หลงละอ่อนรักหนุ่ม..เฮ้อ!!กลุ้มใจ
มีแค่ฝันลมแล้งระแหงโหย
ถูกเวลาคร่าทวงความร่วงโรย
กาลก็โปรยชราทาบทานวล
ระยะทางชีวิตประดิษฐ์ไว้
แต่เยาว์วัยงามขำบ่กำสรวล
ทรัพย์สมบัติจัดเด่นเป็นกระบวน
รูปสมบัติชัดถ้วนชวนตรึงตรา
มากไหวพริบสมเนื้อเอื้องามสม
ฉลาดคมสกุลล้วนหนุนค่า
เป็นสตรีมีทรัพย์นับคณา
ทรัพย์จรรยาพร้อมเพียบใครเทียบนาง
ร่ำรวยยศรวยเกียรติเครียดอยู่หนึ่ง
เพียงรำพึงถึงรักกวักเรียกบ้าง
ล้วนชายหนุ่มรุมชอบอยู่รอบทาง
กลับรู้สึกอ้างว้างบ้างเดียวดาย
อันโหยหาคือใจที่ใฝ่รัก
เพียงพบพักตร์รักเขาใจเราพ่าย
ปรารถนาร้อนเร่าเผาวอดวาย
ใจละลายตอนแก่เป็นแน่นอน
จะปริปากบอกใครได้บ้างเล่า
รัก,หลงเขาชายหนุ่มกลุ้มเกินถอน
หนุ่มสิบเก้าสาวบั้นปลายใจอาวรณ์
หลงละอ่อนรักหนุ่ม..เฮ้อ!!กลุ้มใจ
masapaer
ท่ามกลางเสียงสายฝนกับคนเหงา
"ท่ามกลางเสียงสายฝนกับคนเหงา"
ดวงเทียนไหวระริกกระดิกเต้น
เปลวไหวเอนเล่นลมประโลมเป่า
พระพายอึงสะบัดพัดแผ่วเบา
เสียงฝนแรกหล่นฟ้าฝ่าอากาศ
ดั่งคลื่นสาดสินธูสู่ดินแห้ง
ถิ่นเฝ้ารอนทีนี้ลงแปลง
ผืนดินแล้งรอน้ำกำลังมา
ฝนเม็ดแรกแหวกลมพรมพิภพ
หล่นกระทบถึงดินและหินผา
แล้วกรูสาดกระหน่ำซ้ำพสุธา
น้ำก็บ่าหลั่งทาบอาบผืนดิน
ท่ามกลางเสียงสายฝนกับคนเหงา
นอนกอดเงาหนาวสั่นขวัญถวิล
ฝนโปรยคล้ายน้ำตาฟ้าหลั่งริน
มิต่างจินต์คนเหงากอดเงานอน
ความง่วงเริ่มเร่งเร้าแทนเหงาหนัก
ภวังค์ผลักนฤมลบนฟูกหมอน
สู่นิทราหลับลงปลงอาวรณ์
ด้วยเหนื่อยอ่อนล้านักจึงพักใจ
ราตรีกาลผ่านห้วงเกินล่วงรู้
เสียงฝนพรำกล่อมหูสู่หลับใหล
อรุณตื่นขึ้นมาจะฝ่าไป
จูบฝนไว้ปลอบขวัญอันเดียวดาย
ปกิณกะภาษากอน
masapaer
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
นิยมสูง
-
ดาวคอยจันทร์ ดาวมิเคยเลยหายกลายไปไหน ยังสถิตฟ้าไกลไว้เสมอ เพียงตะวันบังบดลดแสงเธอ แสงเพียงเบลอลางเลือนเคลื่อนสายตา ใครบ้างรู้ความจริงสิ่ง...
-
ฟ้าไร้ดาว คืนลมพัดสำเนียงเสียงคนเหงา กระทบเร้ากมลถึงคนเซ่อ ฟ้ากระจ่างพร่างพราวเฝ้าละเมอ กลับมิเจอดาวใดในคืนนี้ เผยอมองดาวเจ้า..เราคอเคล็...
-
" หนึ่งสมองสองมือ..ก็คือเรา" หนึ่งสมองสองมือยื้อถึงขา ทั้งกายาและใจไม่อวดเบ่ง บัดตั้งสู้ขวากหนามตามละเลง ที่ข่มเหงชะตากรรมก็ทำไป ...
-
~ ดาว ~ ดาวเจ้าเอย..เหนื่อย,เหงา,เศร้าบ้างไหม กับหน้าที่ยิ่งใหญ่ในห้วงหาว คอยส่องฟ้าระยิบกระพริบพราว ส่องสกาวพราวฟ้าทุกราตรี เคยบ้างไห...
-
“อ่านหน่อยนะ” เขียนกลอนมามากมายอยากให้อ่าน ในผลงานซ่อนไว้ในบางสิ่ง ฉันเขียนกลอนซ่อนเหงาเฝ้าพักพิง ใจแนบอิงบทกลอนตอนอ่อนแรง มีบางอย่างที่เน้น...
-
" นิรมิตอธิษฐาน " บรรจงเก็บดาวดวงบนห้วงหาว น้ำค้างพราวประภัสจำรัสศรี ดลขอพรประสงค์องค์ภูมี ให้สมหวังครั้งนี้ที่ดวงมาน ฐานกระทงจัดไ...
-
งานแห่งใจเพื่อใครกัน ? เขียนกลอนตั้งมากมายไว้สืบสาน สร้างตำนานภาษาน่าฝันใฝ่ อาจจะมีบางคนฟากโพ้นไกล อ่านกวีผู้ไร้ในกาพย์,กานท์ งานแห่งใจใ...
-
@ กลอนที่เขียนไม่ได้ @ บรรจงเขียนเพียรลิขิตทิศอักษร กลั่นบทกลอนอ่อนไหวให้อ่อนหวาน กำหนดบทจดความตามแนวกานท์ หวังสืบสานงานกวีศรีของไทย บรรจง...
-
ศักดิ์ศรีครูไม่ได้อยู่ในชุดที่ใส่ มิใช่ปกงานที่ไฉไล แต่หากคือหัวใจของครูเอง 🎖 วัดค่ากันที่ผล..จากทางเริ่มต้นที่หลากหลาย เส้นทางมีมากม...
-
~ พระเอกเงา ~ กว่าจะกลั่นคำพ้องคล้องประพจน์ กว่าจะจดละเมอต้องเพ้อฝัน กว่าจะได้หนึ่งแง่แต่ละวัน ต้องนั่งปั้นอารมณ์ผสมใจ กว่าประดิษฐ์คิดสร้า...