“อย่าได้แกล้งรักกัน"

 

“อย่าได้แกล้งรักกัน"

 

เลือดที่ไหลในกายคล้ายพลุ่งพล่าน
ประดุจปานเพลิงกรดบดมอดไหม้
หยาดน้ำตาแห้งเหือดเพราะเดือดไฟ
สะอื้นในไหม้ลามกระหน่ำมาน

 

รักสะดุดสุดช้ำความสาหัส
มิอาจขัดใจตนทนหน้าด้าน
เป็นกาฝากหัวใจให้รำคาญ
เธอสงสารใช่ไหมให้บอกมา

 

เป็นตัวรองของใจให้เธอเลือก
รักหมดเปลือกทั้งใจยังไร้ค่า
เป็นแค่คนเมื่อวานผ่านสายตา
สิ้นรักจางร้างลาถลาไกล

 

อย่าแสดงแสร้งท่าหน้าอย่างนั้น
เหมือนรักยังสำคัญนั้นเพียงไหน
หากรักเลือนเคลื่อนคล้อยรีบถอยไป
อย่าอาลัยเสแสร้งอย่าแกล้งทำ!

 

สิ้นรู้สึกอันเดิมเธอเริ่มจาก
อย่าความมากถามไถ่ให้กลืนกล้ำ
อย่าให้ใจนางรองถูกจองจำ
กับน้ำคำ “ว่ารัก” กักขังกัน

 

อย่ายืดเยื้อเพื่อลวงถ่วงความรัก
แค่ปฏักปักใจอย่าไหวหวั่น
คงเลิกรักเธอได้ในสักวัน
เพียงอย่าแกล้งรักฉัน..ให้หวั่นเลย

14 /03/2014

 

"ภาพลวงตา"

 

"ภาพลวงตา"

 

ภาพลวงตาลวงใครหรือใจเขว
ถูกลวงเล่ห์ด้วยภาพอาบมนตร์ขลัง
ใครหลอกใครใจเราเข้าภวังค์
หรือเผลอพลั้งกับภาพฉาบมายา


ภาพลวงตาซ่อนกลให้คนเผลอ
มองจนเพ้อเก้อล้มก้มผวา
หรือใจเราเขลาเองเก่งลวงตา
สร้างภาพมาลวงใจให้บิดเบือน

จุดรับภาพรับไว้ใจสดับ
แปรผันกลับภาพเห็นดังเช่นเงื่อน
ใครหลอกใครกันแน่แท้ลางเลือน
ใจหรือภาพขับเคลื่อนจึงเลือนนัยต์

ภาพมายาลวงใจใครกันสร้าง
วัตถุอ้างหรือแน่แค่สงสัย
สร้างกลลวงดวงตาท้าดวงใจ
สั่นกมลคนได้คล้ายต้องมนตร์

เป็นจักษุมายาคราเราจ้อง
ตอบสนองภาพเคลื่อนเบือนเหตุผล
แท้ที่เห็นคืออดีตขีดเวียนวน
หรือเป็นกลอนาคตกำหนดไว้

ภาพตามคิดคิดตามภาพที่ฉาบเร้น
อาจดั่งเช่นประสบการณ์นั้นสอนให้
เราจะเห็นเป็นภาพนับเช่นไร
ก็ด้วยนัยรับรู้อยู่นั่นเอง