หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

นาทีที่หลับใหล..แต่หัวใจไม่หยุดฝัน





นาทีที่หลับใหล..แต่หัวใจไม่หยุดฝัน

 สาวน้อยหัวเราะ

หนึ่งนาทีที่ใจได้มีฝัน
ประกายวันบรรเจิดเกิดความหมาย
เปี่ยมพลังตั้งใจได้มากมาย
ดั่งคลื่นสายธาราคราเชี่ยววน


หนึ่งนาทีที่คิดประดิษฐ์สร้าง
เกิดโลกกว้างทางไกลในเวหน
มวลประชาได้ตื่นชื้นกมล
กับคิดดลแรงสรรอันมากมี

หนึ่งนาทีที่ใจได้กอบกู้
ฐานะรู้ตัวตนบนวิถี
รับความจริงวิ่งผ่านมานฤดี
กับเวลานาทีที่หมุนเวียน

หนึ่งนาทีเท่านั้นที่พลันคิด
แปลงจริตจิตคนวนผันเปลี่ยน
จะอ่อนแอแก่สู้กู้ความเพียร
หรือมุ่งเรียนเขียนรู้กู้เรื่องราว

หนึ่งนาทีกระแสแปรธารคิด
จับจริตจิตฝันมิทันก้าว
ประหนึ่งคิดเดินทางกว้างและยาว
เกินโน้มน้าวดึงไว้แทบไม่ทัน

หนึ่งนาทีที่เขลาเราหลับใหล
แต่หัวใจไม่หลับหรือทับฝัน
บัดยังสร้างรากฝังอย่างทุกวัน
เป็นประกันของใจให้นาที

  ซุบซิบนินทา  " มุขสุดท้ายของเรื่องนี้ค่ะ ..ตันแล้ว ..อิอิ"     ยิ้มแฉ่งฟันหลอ 
 เอ้อ..จริงว่ะ
10/11/53

หนึ่งนาทีที่ ใกล้-ห่าง กัน





"หนึ่งนาทีที่ ใกล้-ห่าง กัน"




หนึ่งนาทีที่ใกล้ไยน้อยนัก
หนึ่งก้าวชักกึ่งถอยเหมือนคอยท่า
หนึ่งความสุขกลับด้อยน้อยราคา
เพียงอุรารอคอยน้อยใจกาล


หนึ่งนาทีที่ห่างอย่างเงียบเงียบ
นิ่งเย็นเฉียบเข้าลึกรู้สึกพล่าน
หนึ่งนาทีนี้ท้อทรมาน
ดั่งสายธารยาวไกลในนาที

หนึ่งชั่วครู่ดูนานผ่านสิบโยชน์
จินต์แล่นโลดโผนผ่านทะยานหนี
กู่เสียงก้องร้องเรียกเพรียกฤดี
นับเวลาครามีที่ใกล้กัน

หนึ่งนาทีเมื่อใกล้หัวใจรัก
กลับสั้นนักมิยื้อถือกลับสั้น
ห้วงแห่งกาลนานยาวก็เท่านั้น
เหมือนถูกบั่นสั้นลงคงน้อยไป

หนึ่งนาทีที่ใจเมื่อได้เกลียด
จิตถูกเบียดศักดิ์ศรีหนีไม่ได้
หนึ่งนาทีนี้ราวยาวเกินใจ
จะทนไหวในนาทีที่ใกล้เกิน

หนึ่งนาทีที่ใจติดกับดัก
ที่ตนถักรู้คิดจิตผิวเผิน
เอาเกลียดตั้งเกิดหม่นด้นเผชิญ
เพราะหลงเพลินอารมณ์ข่มไม่ลง

หนึ่งระยะความห่างต่างดวงจิต
ที่นาทีประชิดติดพิษสง
ของรู้สึกตรึกเบาก้าวไม่ตรง
เพราะอาจหลงกลใจในคำนึง



 สาวน้อยค่อยๆอาย
10/11/53





หนึ่งนาทีที่หัวใจ






@ หนึ่งนาทีที่หัวใจ  @

หนึ่งนาทีที่ใจในมนุษย์
ยากจะผุดหมายเหตุสังเกตผล
ระยะห่างกว้างยาวน้าวกมล
สุดจะค้นคาดเดาเอามาตรา


หนึ่งนาทีที่ใจได้เริ่มตื่น
พบตัวแปรใดอื่นฝืนประหม่า
กลายเป็นผลในเหตุเจตนา
กระจายทั่วอุราหาเหตุนั้น

ในนาทีที่ใจได้เกิดคิด
เนรมิตในจินต์ก็บินฝัน
อาจควบคุมอย่างยากมักไม่ทัน
วุ่นวายพลันสั่นรัวในหัวใจ

หนึ่งนาทีที่ใจได้เริ่มต้น
เริ่มขุดค้นด้นหาค่าสิ่งไหน
เกิดกิ่งก้านธารคิดประสิทธิ์ไกล
เดินทางไวในจิตที่คิดนำ

หนึ่งนาทีที่ใจได้เดินทาง
ผ่านโลกกว้างอย่างไวให้ถลำ
เรียกไม่กลับลับเลือนเบือนความจำ
หลงดื่มด่ำเที่ยวท่องล่องโลกา

เดินทางกว้างหลงใหลในสามโลก
อุปโลกน์โยกเปลี่ยนเพียรเสาะหา
ทั้งความสุขเศร้าโศกโลกมายา
ทั่วทิวา...ราตรี...สีทันดร

หยุดเพียงหนึ่งนาทีที่ใจล้า
อาจพบค่าความหมายในโลกกร่อน
ละอุปาทานขันธ์หยาบคราบนิวรณ์
เพื่อใจผ่อนหย่อนคลายในนาที



 ยิ้มให้จ้ะ
2/8/53


หนึ่งนาทีที่ใจหลงทิศ






@ หนึ่งนาทีที่ใจหลงทิศ @



หนึ่งนาทีที่หลงจงได้คิด
ท่องจับจิตวิญญาณอันผยอง
ซึ่งอาจหลงดงใจให้คะนอง
ตามครรลองของธรรมที่นำทาง


คือเริ่มต้นหนทางอย่างหาญกล้า
เผชิญหน้าป่าใจในหลุมกว้าง
ที่ถูกตั้งแอบดักกักหลุมพราง
ด้วยคิดวางหลอกไว้ในใจตน

หนึ่งนาทีที่ใจได้หลงทาง
ในรู้สึกอ้างว้างต่างฉงน
เคว้งคว้างใจไหวหวั่นพรั่นกมล
เหตุเพราะกลของใจในตัวเรา

หนึ่งนาทีขอใจได้เริ่มต้น
เริ่มเสาะค้นรนหาฆ่าสิ่งเร้า
ที่อาจทำจิตหวั่นพรั่นไม่เบา
เพื่อลบเงาเศร้าหมองที่ครองใจ

แค่เวลามินานผ่านนาที
ช่างเร็วรี่ผ่านพ้นวนเปลี่ยนได้
เกิดปะทะสองขั้วรัวข้างใน
กับธารคิดที่ไวในจิตนี้

หนึ่งนาทีที่ใจได้ผุดคิด
อาจพะวงหลงผิดติดวิถี
หลงกับดักของตนระคนมี
ด้วยคิดที่ไร้ทิศให้จิตวาง


 
 งง....
3/8/53







“ มหัศจรรย์แห่งธารคิด “






“ มหัศจรรย์แห่งธารคิด “



หนึ่งนาทีของใจในธารคิด
คอยสะกิดบิดเบือนเลื่อนวิถี
ปรารถนาลาลบกลบบัญชี
ความคิดหลงมากนี้ที่ก่อรวง

หนึ่งนาทีที่ใจได้นอนหลับ
อยากเก็บพับกลับฝันพลันเหมือนบ่วง
เพียงชั่วครู่ดูนานผ่านทะลวง
คิดเกิดทักตักตวงพ่วงใจคน

อยากจะลบกลบเลือนเบือนความคิด
แต่นาทีชีวิตสะกิดปล้น
จินต์แห่งฝันบรรเจิดเกิดเข้าวน
ให้กมลเพียงหลับคิดกลับยัง

จึงปล่อยใจไหลไปในธารคิด
เหมือนทุกทิศติดกฏบทความหวัง
หนึ่งนาทีที่ใจใคร่เปรียบดัง
เดินทางทั้งยังหลับกับราตรี 

สิ่งมหัศจรรย์แห่งธารคิด
ที่ลื่นไหลทุกทิศไร้สิทธิ์หนี
ทุกขณะหายใจใคร่เกิดมี
คิดเดินทางเร็วรี่ทุกลีลา

ทุกนาทีก้าวผ่านของธารคิด
ยังคงก้าวทุกทิศคิดอ่อนล้า
แต่ไม่หยุดฉุดรั้งยังตั้งตา
แสวงหาความหมายในใจตน



 ยิ้มให้จ้ะ
8/7/53





"ใครแน่ ?"

นิทานสอนใจ เขียนนานแล้วค่ะ โดยใช้นามปากกา "มะสะแป"  ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ค่ะ


masapaer อินเตอร์เทนเม้นท์
ภูมิใจเสนอ
ขำแบบกระแดะหน่อยๆ



ใครแน่ ?



หลง

เจ้าพยัคฆ์เมฆาแห่งผาหิน
เจ้าแห่งถิ่นพนาผู้กล้าแกร่ง
อำนาจเหนือหมู่สัตว์ชัดสำแดง
ทะยานแบ่งเขตครองคะนองไพร

หาใดทันเล่ห์เหลี่ยมมิเทียมอาสน์
ยืนผงาดอาจกล้าหาเกรงไม่
คำรามก้องประกาศอำนาจชัย
จะมีใครกล้าสบสยบตน


ฝ่ายพรานป่าล่าเนื้อเสือไม่หวั่น
ศึกประจัญดันสู้ขู่มิสน
จะเข้าล้วงลูกเสือเมื่อผจญ
มันต้องด้นเชิงชั้นกันสักที

หากในถ้าล้ำไปไม่ดีนัก
สมควรจักล่อหลอกออกมานี่
จัดแผนการอันร้ายไล่ไพรี
ใช้โคล่อต่อซีดีแน่นอน

.
.
.

โคผู้หลงขลาดเขลาเข้าล่อหลอก
วาจากรอกยอกร้ายให้เสือกร่อน
สบประมาทวาจาท้ามิรอน
ด้วยมั่นใจพรานซ่อนเพื่อซ้อนยิง!



วาจาอันเชือดเฉือนเหมือนเผาไหม้
กล่าวปลิ้นใส่หมั่นหยดกรดกัดยิ่ง
น้ำหยดหินหินเซาะเปราะเรื่องจริง
จิตมินิ่งคำกร่อนคลอนฉันใด  (ก็ฉันนั้น)






เสือพลาดท่าเพราะโคท้า กับพรานป่าที่ดักสุ่ม


เมื่อพยัคฆ์ถูกท้าวาจาเดือด
หวังเข้าเชือดเนื้อโคโอชะใหญ่
จงรู้จักเถิดหนาข้าเป็นใคร
จะออกไปขย้ำให้หนำทรวง

ด้วยโมโหโทสะขาดสติ
ขาดดำริตรองหาภาษาบ่วง
คำโคท้าบ้าบอเรื่องล่อลวง
เสือสิ้นดวงเพราะพลาดขาดวิชา

โผนทะยานกำลังตั้งเข้าฟัด
ส่วนพรานจัดแผนไว้ได้ทีล่า
เห็นเสือร้ายปรากฏบทเต็มตา
จึงเล็งหน้าไม้มั่นลั่นถึงกาย (.....)

เสือสิ้นชีพเพราะบ้าโทสาจัด
คิดเร่งรัดไม่ตรึกนึกความหมาย
หลงอารมณ์วู่วามใกล้ความตาย
จึงสิ้นลายเพราะขาดพลาดตรึกตรอง

เขี้ยวพยัคฆ์จักถือคือยิ่งใหญ่
พรานสวมใส่ประกาศมาดผยอง
เจ้าพนาคือตนคนเข้าครอง
คึกคะนองสมใจในชัยตน  (ฮ่า ฮ่า ฮ่า)


เจ้าโคเล่าลำพองผยองจิต
พรานพิชิตเสือไวเมื่อหมายผล
เหตุเพราะโคล่อหลอก..กรอกหูวน
พยัคฆ์จนอ่อนแอแพ้อารมณ์

ดูกรพรานขี้ขลาดมาดแอบซุ่ม
หลบหลังมุมพุ่มไม้ใช้แผนล่ม
เสือสิ้นลายได้เพราะเคาะคารม
อันโสมมของโคผู้ปรีชา   (หึ หึ หึ ) โฮ่ะ ๆๆๆ




เหนือฟ้า


ครั้นพรานป่าล่าเสือเมื่อสำเร็จ
จึงล้างเคล็ดเด็ดเขี้ยวเลี้ยวเคหา
อวดฤทธีพี่พราน..ศรีภรรยา
ได้ลูกเสือกลับมาราคาดี

กระหยิ่มยิ้มสะใจในสามารถ
ยอดฉลาดคือข้ากล้าแกร่งนี่
อาหารเย็นคือโคตัวโตนี้
กินให้สมศักดิ์ศรีที่นำชัย

ต้องขอบใจอ้ายโคแค่โง่นิด
ทั้งชีวิตคือเนื้อเอื้อชิ้นใหญ่
เป็นอาหารชั้นยอดตลอดไป
เป็นโคล่อต่อไว้ให้นายพราน


มิทันนั่งฟังความคำรามก้อง
เสียงนวลน้องก้องเฉือนเหมือนประหาร
เหตุไฉนไยพี่หนีไปนาน
ก็หน้าที่ในบ้านบานเป็นกอง

ไปจัดการงานขังอันคั่งค้าง
รีบสะสางอย่าช้าบ้าผยอง
หากต้องการแตกต่างอย่างปรองดอง
จงประคองงานบ้านอันสำคัญ

ประกาศิตมิตรเรือนเหมือนสั่งทาส
มิบังอาจผยองต้องอาสัญ
ก่อนที่นางสั่งเพิ่มเสริมงานพลัน
พรานเลยขันทำเอง..เก่งจริงจริง


 ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

"มะสะแป"


ตอนจบ  (เหอะ)

ยังมีเทวดา

 ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

ศรีภรรยากระหยิ่มอิ่มอำนาจ
ผู้ประกาศชัยแท้แน่กว่ายิ่ง
เป็นควาญช้างอย่างแท้ใช่แค่ลิง
กำชัยอิงใจตนคนแน่นอน

เรื่องจัดการในบ้านมันยุ่งยาก
หากเรื่องมากลากถูดูมั่วกร่อน
จึงต้องวางจัดการงานทุกตอน
ให้คอยอ่อนอกใจในสามี

หากไม่ใช้ไม่ทำย้ำเกินบ่อย
บางทีพลอยโป้ปดแอบโดดหนี
ต้องคอยดูเวรยามตามให้ดี
เป็นแม่ศรีลำบากยุ่งยากใจ

เดชะบุญหนุนให้ได้ฉลาด
เป็นแม่นางเก่งกาจมาดยิ่งใหญ่
ลองมาหือถือแม่แหย่ปะไร
จะต้องเห็นกองไฟที่นัยน์ตา


อันภูมิใจชัยยศพจน์ไม่ขาด
ลูกตวาดแม่ปล่อยคอยนานหนา
หิวข้าวน้ำนมเนยเลยเวลา
เงินสักพันเอามาจะเข้าเมือง

จะไปดูหนังหน่อยเพื่อนคอยแล้ว
อันลูกแก้วไม่ได้สมดั่งเรื่อง
หากปล่อยให้ใจน้อยอาจพลอยเคือง
อาจเป็นบ้าท้าเขื่องเอาเรื่องคน

เห็นองค์ไปในมาดผู้อาจหาญ
จะต้านทานไม่ไหวให้สับสน
ลูกเทวดาแม่เลี้ยงเสี่ยงเหลือทน
เลยเวียนวนทนเปลี้ยละเหี่ยใจ
เวรกรรม เจงๆ

 ยิ้มแฉ่งฟันหลอ  ชักเลอะ.. จบดีกว่า..เอ้อ..จริงว่ะ "มะสะแป"  ขอบคุณค่ะ   ฉลองกัน

30-31 /10/2553
ในร่าง "มะสะแป"

"รอยไม้เรียว"






"รอยไม้เรียว"

มือลูบก้นตรงนี้ที่เคยเจ็บ
โดนครูเหน็บด้วยหวายในคราก่อน
เรื่องราวผ่านครั้งหลังดังละคร
ระลึกย้อนกลับยิ้มปริ่มน้ำตา


 

เมื่อแรกเรียนเขียนอ่านสนั่นห้อง
เสียงครูก้องคอยแนะแกะภาษา
คอยพร่ำสอนความรู้คู่จรรยา
คัดวิชาสารพัดด้วยจัดเจน

หมั่นอบรมขัดเกลาเข้าใจศิษย์
คอยสะกิดจิตบ่มให้คมเด่น
ความดีนี้จำจดเป็นกฏเกณฑ์
ครูจึงเน้นคุณธรรมย้ำไม่จาง

เมื่อทำผิดเพราะชั่วครูรัวไม้
ทั้งสอนให้คำปราชญ์สาดเข้าอ้าง
ด้วยเพราะห่วงกลัวศิษย์คิดหลงทาง
ข่มมือวางไม้ลงตรงร่างกาย

มองเห็นภาพไม้เรียวเสียวแสบลึก
คิดย้อนนึกถึงยังไม่จางหาย
แผลบวมช้ำจ้ำเลือนลบเคลื่อนคลาย
รอยสุดท้ายฝากย้ำในคำนึง

ไม้ครูเหน็บเจ็บซึ้งถึงวันนี้
ฝังเข้าที่หัวใจในครั้งหนึ่ง
มองกระจก..มีครูใหม่..ในนั้นจึง
ขอบคุณถึง..รอยไม้เรียว..ที่เคี่ยวมา

 ยิ้มแก้มแดง
25/5/53
(มะสะแป)
แก้ไข ล่าสุด 18 มกราคม 2558

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

“ หนึ่งนาทีที่หลับใหล “




“ หนึ่งนาทีที่หลับใหล “



ทุกก้าวของกระแสที่แปรเปลี่ยน
เวลาเวียนหมุนรอบไม่หมอบนิ่ง
วันเดือนผันตามกาลนั้นเรื่องจริง
วัฏจักรทุกสิ่งอิงธรรมดา

หนึ่งนาทีหลับไปใช่หยุดคิด
ยังมีหมื่นชีวิตแสวงหา
ต่างแข่งขันหมั่นกู้สู้ชะตา
กับกรอบกาลเวลาท้าให้เดิน

หนึ่งนาทีที่ใจได้พักผ่อน
สิ่งแน่นอนกร่อนกิ่วดูผิวเผิน
โลกรออยู่ผู้กล้าท้าเผชิญ
ไม่หลงเพลินหลับใหลในนาที

หนึ่งนาทีที่หลับขยับฝัน
คิดเกิดพลันล้านตื่นไกลหมื่นลี้
กระแสเดียวเทียวเปิดบังเกิดมี
บงการชี้จิตเพลินเดินทางไป

หนึ่งนาทีที่หลับกับกาลเปลี่ยน
เรามุ่งเพียรเรียนรู้ดูสิ่งไหน
หรือหนึ่งวินาทีที่หัวใจ
ของคนเรายาวไกลไม่เหมือนกัน

หนึ่งนาทีที่ฉันนั้นลืมตื่น
สิ่งใดอื่นแปรไปไกลเกินผัน
วิ่งตามโลกโยกเปลี่ยนเวียนไม่ทัน
เพียงหลับมั่นในนิทราแค่นาที


10/06/2010

~*กลอนของเธอ*~

Comment - หัวใจ: 3



~*กลอนของเธอ*~


ตามอ่านกลอนอ่อนหวานมานานแล้ว
ลอบเห็นแววแปลกหม่นปนสงสัย
ดูแฝงเร้นคล้ายกลอนเธอซ่อนนัย
คืออะไรใคร่นึกตรึกนัยกลอน

กลอนเธองามเสกสรรบรรจงแต่ง
คำแสดงแฝงนัยใส่คำสอน
สื่อไมตรีที่งามล้ำบวร
มีนัยซ่อนลึกซึ้งตรึงมนตรา

กลอนเธอล้ำจินตนาครั้งจารึก
คมผลึกอักษรสะท้อนค่า
แห่งกวีศรีปราชญ์รัตนา
ดั่งร่ายมนต์มายาล่าใจคน

กลอนเธอเศร้าอ่อนไหวให้รู้สึก
สัมผัสลึกภาษาน่าฉงน
บางเรื่องราวลึกลับจับกมล
หรือกลอนเธอมีกล..ดลดวงมาน

กลอนเธอหวาน,สุข,เศร้า,เหงา,หัวเราะ
ล้วนเสนาะเพราะนักอักษรสาส์น
ช่างดื่มด่ำคำศิลป์ประทินกานท์
ฤาเทพขานกานท์ส่งลงฤทธี

ตามอ่านกลอนอ่อนหวานมานานนัก
ต้องมนต์รักกลอนคมอันโฉมศรี
หรือหลงผู้เรียงร้อยถ้อยวลี
เพียงพจีที่วางอย่างไรกัน

ตามอ่านกลอนอ่อนหวานมานานแล้ว
กลอนฉายแววเรืองรองผ่องเฉิดฉันท์
แต่ความนัยทุกกลอนซ่อนจาบัลย์
ความนัยนั้นคือใดในกลอนเธอ

12/12/2010

นิยมสูง

อาคันตุกะ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ถูกอกถูกใจกดไลค์กดแชร์นะคะ