หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

“แม้เพียงใกล้ไม่ถึง..ซึ่งใจเธอ”


“แม้เพียงใกล้ไม่ถึง..ซึ่งใจเธอ”

Icon Mini

มองเธออยู่ตรงนี้ที่ใกล้ใกล้
แสงตะวันกระทบไหล่ไล้ดวงหน้า
ปลายผมอ่อนพลิ้วไหวคล้ายมายา
หากดวงตาเฉยเมยเลยอย่างไร


มีบางอย่างตั้งไว้ใคร่อยากถาม
ดวงหน้างามนัยน์นิ่งคิดสิ่งไหน
เธอกำลังรำพึงคิดถึงใคร
กมลเธอลอยไกลถึงไหนกัน

ความคิดเธออย่างไรใคร่อยากรู้
แม้ใกล้อยู่เหมือนห่างดั่งฟ้ากั้น
เธอจะมองมาไหมในสักวัน
สบตาฉันตอบด้วยช่วยปรานี

ชั่วขณะนาทีที่เคลื่อนไหว
เสียงเธอถอนหายใจคล้ายเริ่มถี่
แววตาหม่นเฉยชาซ่อนท่าที
ไร้วจีใดเลยจะเปรยความ

ทุกจังหวะสายลมพรมปลายผม
ฉันเผยอเผลอชมเกินข่มห้าม
ใบหน้าเหงาเบาบางช่างงดงาม
ฉันอยากถาม..บางอย่าง..ที่ตั้งใจ

เธอยังอยู่ตรงนี้ที่ข้างข้าง
หากเหมือนห่างเกินชิดสนิทได้
มิกล้าเอ่ยเปรยถามความอันใด
“แม้เพียงใกล้ไม่ถึง..ซึ่งใจเธอ”

10/10/2013


 




วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กรุแตก


กรุแตก!!


ความเน่าเฟะเหลวหยาบอาบกระแส
กัดกร่อนแปรเป้าหมายกลายทางเปลี่ยน
อดีตขังของเหม็นเค้นอาเจียน
กรุจะแตกแหกเลี่ยนเวียนประจาน


เป็นจุดบอดผิดโผล่โธ่! รันทด
อัปยศบทบาทมิอาจผ่าน
อ่อนวิชชาหน้าที่ศักดิ์ศรีงาน
อุดมการณ์ถูกขายไร้ราคา


เก็บเศษเบี้ยสินบนขนกิเลส
กินขยะสังเวชอนาถา
มิได้สนถูกต้อง.. ซร้องเงินตรา
แลกเอามาเพื่อเกียรติแม้เบียดบัง


กรุจะแตกแหกโรยโชยกลิ่นเน่า
เร่งมือเข้าโกยกลบสยบฝัง
อุดรอยรั่วหลุมเชื้อที่เรื้อรัง
เก็บคืนหลุมคุมขังอย่างมิดชิด


สร้างหลักฐานหอมโชยเข้าโรยทับ
ขยะอับดับกลิ่นสิ้นความผิด
ช้างทั้งตัวบัวใบบังได้มิด
ขยะพิษฤทธิ์จางล้างด้วยเงิน


เก็บซากอัดยัดหลุมคลุมให้ลึก
ปิดผนึกหมักหมมถมให้เขิน
ไม่รู้ชี้หนีห่างลางทำเมิน
ใต้กลเพลินเงาเกียรติเสนียดคน


กลบเบือนบังเข้าไปให้มิดชิด
เผลอสะกิดรอยต่อสิ่งฉ้อฉล
กลิ่นจะโชยเท่าใดไม่อับจน
ขยะปนคนคาวกลบฉาวเอง



 26 กรกฎาคม 2011

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตราบยังอยู่





"ตราบยังอยู่"

การมุ่งหวังตั้งใจในชนะ
เพียงอย่าละรู้เรียนเพียรแพ้บ้าง
การรู้ค่ายิ่งใหญ่ใจปล่อยวาง
ได้จากอ้างเคยแพ้แม้ฝืนทน

จุดประกายใจมุ่งพุ่งต่อสู้
เอาแพ้พ่ายเป็นครูกู้อีกหน
ท้อมีบ้างช่างเถอะมีเลอะปน
ขอเพียงด้นด้วยใจให้ทะนง

คนไม่ท้อต่อสู้ด้วยรู้เหตุ
ย่อมรู้เขตเป็นไปในประสงค์
ชีวิตลุ่มหรือดอนหลอนขึ้นลง
จิตแน่วแน่และตรงดำรงไว้

แสงตะวันผันฟ้ามาทุกเมื่อ
ดั่งศรัทธาความเชื่อที่เอื้อให้
ตราบชีวิตยังอยู่ก็สู้ไป
แสงสีทองของใจคงได้พบ

12/09/2010

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

~เถอะจงเผยความนัย~


~เถอะจงเผยความนัย~


Icon Mini

หัวใจฉันสั่นไหวไร้จังหวะ
เหงื่อไหลชะโลมหน้าประหม่าสั่น
ค้นความหมายนัยซ่อนหลอนใจกัน
เธอซ่อนมันอย่างไรไม่อาจรู้
ระทึกหวั่นแววตาคราเธอฉาย
มิขยายความใดใจหดหู่
เธอมิเคยเผยใจให้ใครดู
มีฉันอยู่หรือไรไม่อาจเดา
มิกล้าเอ่ยเผยใจในคำถาม
ค้นนิยามคำตอบในกรอบเหงา
ไม่กล้าคิดสิทธิ์นี้ว่ามีเรา
หรือมีเขาซ่อนไว้ในดวงมาน
มีคำถามร้อยพันกลั่นไม่หมด
ทุกประพจน์ความนัยอยากไขขาน
อาจคือคำตอบร้าวที่ยาวนาน
หรือสัญญาณความช้ำรอทำใจ
เถอะจงเผยความนัยในเบื้องหลัง
แม้คนฟังอาจหมองต้องร่ำไห้
แววตาเธอเผยชัดขาดเยื่อใย
ขอฟังเสียงได้ไหมโปรดไขมา
16/09/2011

วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จะไป..สอยดาว


จะไป..สอยดาว

 ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

พิศเพียงแสงจำรัสประภัสสร
อาบสะท้อนเงาตาพาถวิล
ท้าแสงงามยามจ้องปองประทิน
แนบดวงจินต์ปิ่นฟ้าดาราราย

เอื้อมมือหวังแหวกฟ้าเพื่อคว้าเจ้า
กลัวรุ่งเช้าเข้ามาดักฟ้าสาย
สุริยาจะกลบลบแสงพราย
สิ้นนวลฉายหายจางลางเลือนดาว

ก่อนราตรีหนีจากฟากฟ้าหม่น
ก่อนใจคนชาวดินกินกลืนหนาว
ก่อนจะสิ้นใจขาดพลาดชมยาว
ส่องแสงพราวนำทางกลางราตรี

อยู่ตรงนั้นดาวน้อยคอยกระพริบ
ส่องระยิบพริบพราวเจ้าอย่าหนี (นะ)
ฉันจะไปคว้าดาวดูเข้าที
รอฉันอยู่ตรงนี้ที่ของเธอ

หนึ่งประพจน์จดไว้ใช้เรียงร้อย
เป็นกานท์ถ้อยร้อยกาพย์รับเสนอ
เป็นบันไดไต่ตั้งหวังได้เจอ
ด้วยกลอนงามบำเรอให้เธอยล

หนึ่งก้าวข้ามห้ามฟ้าอย่าพึ่งสาง
ขอก้าวย่างทางสั้นนั้นเพียงหน
ทุกก้าวผ่านธารหมอกระลอกวน
เถิดเพียงผลถึงดาวชาวดินปอง

รู้ว่าเป็นดินดำดูต่ำค่า
แต่ทว่าใจนี้สิผยอง
มีรักล้นเพื่อมอบตอบประคอง
มอบดาวคล้องห้องยศตามบทใจ

เรียงวลียาวไกลใช้สอยเจ้า
เมฆาเย้าบังบดมิสดใส
เขี่ยเขี่ยทิ้งชิงชังบังดาวไกล
ถอยออกไปเมฆาอย่ามาบัง

จะถึงแล้วดาวส่องพิศมองเด่น
ตะวันเล่นกลใดใคร่หักหลัง
ดินจะแล้งแห้งตายไร้พลัง
หากว่ายังสอยดาวเอาไม่ทัน....

ตะวันมา ดาราเลือน..อิอิ ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

11 มกราคม 2011

เป็นใบ้กันไปหมดแล้ว!!!




เป็นใบ้กันไปหมดแล้ว!!!


เป็นอะไรไปหมดประชดฉัน!
หรือสวรรค์กลั่นแกล้งแช่งให้เสีย
ปฏิปักษ์หักล้างช่างอ่อนเพลีย
สุดละเหี่ยหัวใจให้ระอา

เหมือนรังเกียจเบียดเบียนจนเอียนหนัก
ไร้เสียงทักสักคำทำหยามหน้า
กลัวพิกุลหลุดร่วงหวงวาจา
ใส่แววตากร้าวแฝงระแวงกัน

บทจำเป็นให้กล่าวทำเบาเสียง
อ้าปากเพียงเสียงลอดหลอดคอสั่น
ใครจะยินคำเผยเปรยจำนรรจ์
เหมือนคนรั้นกลั้นบ้าน่าละอาย

ริมฝีปากเผยอคล้ายเธอพูด
ประเดี๋ยวบูดบึ้งบ้าน่าใจหาย
มือกำแน่นตะโกนกระโจนกาย
ออกลวดลายยักษาน่าสะพรึง

เธอตะเบ็งเกร็งร่างเดินกร่างท่า
คล้ายคนบ้าอาละวาดตวาดขึ้ง
ธาตุภายในปรากฏบทตะบึง
ตาถมรึงตึงขวางอย่างหวั่นใจ

ออกลวดลายเครียดเคร่งเบ่งอำนาจ
ท่าตวาดคงลั่นสนั่นไหว
ฉันยังมิยินรับกับเสียงใด
หูฉันตึง..หรือคนใบ้..ใครบอกที!


 02 มีนาคม 2011

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เคยมีฉันบ้างไหม? (ในหัวใจ)



เคยมีฉันบ้างไหม? (ในหัวใจ)
ทางชะตาหัวใจคล้ายติดกับ
ที่เธอจับลับคมล้มรักได้
อยากเอื้อนเอ่ยเปรยคำทำอย่างไร
ตามแต่ใจชายร้องคะนองนัก งอนแล้วด้วย

“หลงรักคนหัวใจไร้รู้สึก” 
หรือส่วนลึกใครกันที่กั้นกัก
จึ่งมิเห็นเส้นใยในสายรัก
ที่ร้อยถักรักไว้ใช่เพียงควง

ฉันมิเห็นรักใดในตาหรอก
เพราะทุกซอกบอกไว้ในมานสรวง
เห็นเธอด้วยใจนี้พลีทั้งปวง
ของทุกห้วงดวงใจ..ใช่ดวงตา

หากสงสัยในมานว่าหว่านทิ้ง
ไร้รักจริงทิ้งเธอเพ้อปวดปร่า
ของทุกห้วงรู้สึกที่ตรึกมา
รู้เถอะว่าใจฉันนั้นก็เป็น

จะแก้ปมอันใดให้ยากนัก
แก้ปมรักมิไหวไยยากเข็ญ
กลั้นรู้สึกตัวเราเศร้าลำเค็ญ
ลืมประเด็นเร้นใจไปได้เลย

ไม่เคยทิ้งขว้างใครให้เจ็บช้ำ
ไม่คิดทำลวงหลอกกลิ้งกลอกเฉย
ใครบางคนนะซีที่ไม่เคย
มองลึกเผยถึงใจนั้นไม่มี งอนแล้วด้วย



หากระแวงแข็งขืนยังยืนเซ่อ
อกเสนอยื่นให้ไม่หลบหนี
ด้วยคมมีดกรีดใจในทันที
ให้แรงนะตรงนี้..ที่หัวใจ



หรือจะเอาเล่มนี้..เชิญ! งอนแล้วด้วย



ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

28 เมษายน 2011

สำเนียงกานท์ผ่านฝน..ถึงเธอ



"สำเนียงกานท์ผ่านฝน..ให้เธอ"
คราวอ่อนแอแพ้พ่ายคล้ายครั้งนี้
ของวิถีคนสู้อาจดูเฉย
สายใจแผ่วเลือนบางมิอย่างเคย
จะเปิดเผยความในใครรับฟัง


ถอดกำลังฟังเพลงบรรเลงโศก
คล้ายทั้งโลกโยกเวียนเปลี่ยนความหลัง
รอยอดีตขีดเส้นเค้นใจพัง
อาจแหลกทั้งยังอยู่ฤาสู้ทน

แต่ในความแพ้พ่ายคล้ายมองเห็น
ธารไหลเย็นส่งผ่านมานที่หม่น
เปลี่ยนกระแสแปรหยดรดกมล
ของจากใจอีกคนบนฟากทาง

ทุกหยาดรินไอฝนล้นหนาวเหน็บ
เฝ้ากอดเก็บอาทรแทนหมอนข้าง
เสียงพิรุณพรำสายคล้ายสื่อกลาง
กระซิบต่างสำเนียงส่งเคียงใจ

ฉันไม่เห็นเช่นใดในอีกฟาก
ความเธอฝากส่งซึ้งถึงที่ไหน
แววตาคอยห่วงหาว่าอย่างไร
แต่รับถึงหทัยในทุกวัน

ส่งสำนวนห้วนห้วนสวนทางฝน
จากใจคนคล้ายแพ้แก่โศกศัลย์
ยังสะเออะส่งใจกลับให้กัน
เธอรับมันได้ไหมโปรดไขมา

ยินสำเนียงเสียงใจหวามไหวแว่ว
ได้รับแล้วรู้สึกระลึกหา
ชายบ้านบ้านผ่านถึงซึ่งกานดา
สู่แนวป่า..สาวบ้านตรึง..ซึ้งบ่จาง

27 พฤษภาคม 2011

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ขอทานใจ



"ขอทานใจ"

วนิพกตกยากลำบากนัก
ขาดแคลนรักอกไหม้ใจยิ่งกร่อย
เร่ขอทานเศษใจใช่สำออย
กมลคอยขอใครโปรดใจบุญ

แด่น้องผู้หิวโหยร่วงโรยเถอะ
แอบสะเออะเพ้อหารักมาหนุน
เพียงเศษเหลือของรักฝากแทนทุน
เป็นพระคุณยิ่งนักหากเยียวยา

เศษหางตาเหลือเหลือเผื่อเพียงนิด
ให้ดวงจิตแห้งเฉาเฝ้าโหยหา
รับแบ่งทานความรักพอชักพา
ให้วิญญาณ์ชื่นฉ่ำแม้รำไร

คนที่รักขาดแคลนแสนหดหู่
น่าอดสูเฝ้าคอยต่ำต้อยไหม
เทียวขอรักเพียงเศษด้วยเหตุใด
แต่มิได้รับรักสักครั้งเดียว

จ๋อยจนเหงื่อตก

~มะสะแป~

23/06/2011

"หากเลือกได้กับดักที่อยากฝัน"


"หากเลือกได้กับดักที่อยากฝัน"

แม้นเขียนกลอนอ้อนคนดลใจได้
เป็นกับดักหัวใจได้เหมาะสม
จะหมั่นเพาะเคาะคำพร่ำคารม
ให้ติดหล่มกลางมานฉันคนเดียว

ติดตรงคำพร่ำไปไม่ล้ำลึก
มิผนึกถึงใจให้เธอเกี้ยว
ตามรายทางนางงามตามแจเชียว
เธอจะเหลียวหรือนั่นหวั่นทรวงใน

เป็นนักกลอนอ่อนหัดมิจัดแจ่ม
เกินกว่าแย้มเผยมานมาขานไข
จะมีพจน์ประพันธ์หวานเพียงใด
จึงจะดักเกี่ยวใจให้เธอมา

ไม่อยากเป็นคนหวานคอยหว่านพจน์
เพียงประชดลวงล่อต่อภาษา
เธอจะตอบหรือไม่ไหวอุรา
มิอาจกล้าท้าความพล่ามพจน์ลวง

หากเลือกได้กับดักที่อยากฝัน
เปลี่ยนร่างผันเป็นทรายคงหายห่วง
สร้างหลุมบ่อล่อเธอละเมอควง
ติดหล่มล่วงคงง่ายกว่าใช้กลอน



08 มกราคม 2011

วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

"อย่าได้แกล้งห่วงกัน"


"อย่าได้แกล้งห่วงกัน"


เลือดที่ไหลในกายคล้ายพลุ่งพล่าน
ประดุจปานเพลิงกรดบดมอดไหม้
หยาดน้ำตาแห้งเหือดเพราะเดือดไฟ
สะอื้นในไหม้ลามกระหน่ำมาน

รักสะดุดสุดช้ำความสาหัส
มิอาจขัดใจตนทนหน้าด้าน
เป็นกาฝากหัวใจให้รำคาญ
เธอสงสารใช่ไหมให้บอกมา

เป็นตัวรองของใจให้เธอเลือก
รักหมดเปลือกทั้งใจยังไร้ค่า
เป็นแค่คนเมื่อวานผ่านสายตา
สิ้นรักจางร้างลาถลาไกล

อย่าแสดงแสร้งท่าหน้าอย่างนั้น
เหมือนรักยังสำคัญนั้นเพียงไหน
หากรักเลือนเคลื่อนคล้อยรีบถอยไป
อย่าอาลัยเสแสร้งอย่าแกล้งทำ!

สิ้นรู้สึกอันเดิมเธอเริ่มจาก
อย่าความมากถามไถ่ให้กลืนกล้ำ
อย่าให้ใจนางรองถูกจองจำ
กับถ้อยคำ “ว่ารัก” กักขังกัน

อย่ายืดเยื้อเพื่อลวงถ่วงความรัก
แค่ปฏักปักใจอย่าไหวหวั่น
คงเลิกรักเธอได้ในสักวัน
อย่าได้แกล้งห่วงฉัน..ให้หวั่นเลย

~มะสะแป~
21 กุมภาพันธ์ 2011

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

" เกินกว่าที่จะค้นเจอ "




" เกินกว่าที่จะค้นเจอ "



จิตคิดฝันอันหนึ่งซึ่งว่าแปลก
ต่างยอมแบกแทรกจินต์ถวิลไหว
ค้นนิยามความจริงสิ่งที่ไกล
ความหมายโลกกว้างใหญ่ไร้นิยาม


ผูกรู้สึกตรึงตราหาคำตอบ
ที่โลกมอบต่อไว้ในคำถาม
มวลอากาศธาตุใดในเขตคาม
นิมิตความหมายสร้างอย่างบรรจง

ทุกขณะหายใจในเวียนว่าย
คิดมิตายหรือดับอับแรงส่ง
ค้นนิยามตามจิตในทิศตรง
หรือลืมหลงเส้นทางอย่างน่ากลัว

กับดวงตาฟ้าให้ใช่มองเห็น
ภาพที่เป็นเพียงธาตุอากาศกลั้ว
ยังคงตั้งคำถามนิยามรัว
เหมือนลืมตัวทุกขณะแม้ตามอง

ทอดอาลัยใต้เดือนเหมือนสับสน
อาวรณ์วนค้นใจในสิ่งผอง
เพียงขยายในกรอบรอบครรลอง
มิอาจต้องคำตอบที่ครอบคลุม

ในโลกนี้ที่อ้างว่ากว้างใหญ่
ฤาเท่าจินต์ภายในใต้มรสุม
ดูเวิ้งว้างกว้างใหญ่ไร้เขตมุม
ไม่มีกลุ่มความหมายให้ค้นเจอ

วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2556

อ่านหน่อยนะ




“อ่านหน่อยนะ”

Icon Mini


เขียนกลอนมามากมายอยากให้อ่าน
ในผลงานซ่อนไว้ในบางสิ่ง
ฉันเขียนกลอนซ่อนเหงาเฝ้าพักพิง
ใจแนบอิงบทกลอนตอนอ่อนแรง


มีบางอย่างที่เน้นเธอเห็นไหม
ฉันเพิ่มไว้ในกลอนตอนแถลง
ทุกประพจน์จรดลงส่งแสดง
มิเสแสร้งใดใดในนั้นเลย

เธออ่านเห็นบ้างไหมอยู่ในนั้น
มีแต่คำรำพันอันอยากเอ่ย
อยากจะบอกแต่มิกล้ากลัวว่าเชย
เพราะใจเคยเจ็บช้ำยามเอ่ยไป

อ่านหน่อยนะเขียนไว้อยากให้อ่าน
อาจพบพานความจริงสิ่งซ่อนได้
กลอนที่เขียนเจาะจงลงที่ใจ
สื่อบอกไว้เผื่อเธอจะเจอมัน

ฉันเขียนกลอนเอาไว้ให้เธอนี้
เป็นวลีความรักถักความฝัน
อาจมิใช่กวีที่สำคัญ
แต่คือ “รัก”ค่าอนันต์จากฉันเอง

๑๔/๐๔/๒๕๕๖

นิยมสูง

อาคันตุกะ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ถูกอกถูกใจกดไลค์กดแชร์นะคะ